ไอบ้า เปลี่ยนการให้คะแนนมวยสากลสมัครเล่น ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ามีข้อเสียมากกว่าดี
การแข่งขันมวยชิงแชมป์เอเชีย คอนเฟดเดอเรชั่น บ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2013 ที่กรุงอัลมาน ประเทศจอร์แดนในขณะนี้ เป็นเวทีแรกที่สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบ้า ใช้ปูทางสู่เส้นทางมวยอาชีพ ตามนโยบายที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี
ซึ่งจากนี้ไอบ้าจะเปิดตัวมวยโปรบ็อกซิ่ง หรือ มวยเอพีบี (APB) โดยเป็นการชกแบบมวยอาชีพ ไม่มีเฮคการ์ด ใช้ระบบการให้คะแนนแบบยกละ 10 คะแนนในกลางเดือนนี้ ที่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ตามมา
ในการปรับเปลี่ยนการให้คะแนน ไอบ้าจะให้คะแนนแบบมวยอาชีพคือยกละ 10 คะแนน ไม่มีการโชว์แต้มระหว่างยกเหมือนในโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตัดสินทั้งหมด 5 คนที่นั่งประจำขอบเวทีจะกดแป้นคะแนนที่มีเลขนับจาก 1-10 คะแนน คะแนนที่มากที่สุด และต่ำที่สุดจะถูกตัดออกไปคล้ายกับการให้คะแนนยิมนาสติก จากนั้นคะแนนจากผู้ตัดสิน 3 คนที่เหลือจะถูกนำไปประมวลผลออกมาเป็นการตัดสินแพ้หรือชนะ
การปรับเปลี่ยนกติกาใหม่ของไอบ้า ย่อมส่งผลกระทบต่อวงการมวยสมัครเล่น โดยเฉพาะเรื่องความไม่โปร่งใส เนื่องจากไม่มีการโชว์คะแนน ทั้งๆที่สมาชิกหลายชาติมีการร้องขอไปก่อนหน้านี้ การไม่เปิดเผยคะแนนระหว่างชกทำให้นักมวยและผู้ชมข้างสนามจะไม่มีทางรู้ที่มาของแต้มได้เลย
นอกจากนี้ยังมีข้อห่วงใยด้วยว่ามนต์เสน่ห์ของมวยสมัครเล่นอาจจะหายไป ไม่มีการชนะกันแบบเอ้าท์สกอร์ หรือ คะแนนขาด ซึ่งกติกาแบบเดิมจะดีกว่าตรงที่สามารถจับแพ้ได้เลยกรณีแต้มห่างชั้นกันมากเพื่อรักษาสภาพของนักมวย
อีกประเด็นที่น่าจับตาคือรูปแบบให้คะแนนแบบมวยอาชีพจะทำให้ นักชกแต่ละคนไม่ทราบสถานะการณ์ของตัวเอง ทำให้ไม่สามารถวางแผนการชกได้ว่า ควรจะคุมสถานะการณ์ และปรับเปลี่ยนสไตส์อย่างไร ทำให้ตลอด 3 ยกต้องออกหมัดใส่กันตลอด ร่างกายอาจได้รับความบอบช้ำมากกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศต่างต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเฟ้นหานักมวยและโปรแกรมการฝึกซ้อมใหม่ที่ต้องเน้นการฝึกแบบมวยอาชีพเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ไอบ้าปฎิรูปขึ้นใหม่ กำลังได้รับการวิจารณ์ว่ามีข้อเสียมากกว่าดี ซึ่งรายการนี้ยังไม่รวมการถอดเฮคการ์ดที่น่าจะเริ่มใช้ในการแข่งขัน เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพปลายปีนี้ บางกระแสบอกว่าสิ่งที่ไอบ้ากำลังทำสวนกระแสกับกีฬาชนิดอื่นๆ ที่เน้นป้องกันอันตรายให้กับนักกีฬา และเน้นการแข่งขันที่โปร่งใส ขาวสะอาด