หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดแผนยุทธศาสตร์ควบคุมเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์

4 ก.ค. 56
08:15
95
Logo Thai PBS
หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดแผนยุทธศาสตร์ควบคุมเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์

ปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามเร่งเเก้ไขปัญหา ด้วยการถอดบทเรียนจากชุมชนที่เคยได้รับผลกระทบ เพื่อนำไปกำหนดเเผนยุทธศาสตร์ควบคุมเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ไว้เป็นเเนวทางในการปฏิบัติ ขณะที่นักวิชาการที่ขับเคลื่อนในเรื่องนี้สะท้อนว่าการเเก้ปัญหาที่ยั่งยืน ควรเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ผลสำรวจจากสำนักงานสถิติเเห่งชาติที่ระบุว่า จ.พะเยา เเละอีก 5 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน ได้เเก่ เเพร่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เเละเเม่ฮ่องสอน ติด 1 ใน 10 จังหวัด ที่มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์มากที่สุดในประเทศ มีการวิเคราะห์ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่ภาคเหนือติดอันดับมากที่สุด เป็นเพราะประชาชนสามารถเข้าถึงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ได้ง่ายขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
 
ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง เเละระดับท้องถิ่นพยายามเร่งเเก้ปัญหานี้เพื่อลดผลกระทบ นักวิชาการที่ขับเคลื่อนในเรื่องนี้มองว่า เเม้ปัจจุบันจะมีมาตรการทางกฎหมายออกมาควบคุม เเต่ในทางปฏิบัติกลับไม่เห็นผลเท่าที่ควรนัก ดังนั้น การเเก้ปัญหาที่ยั่งยืน ชุมชน เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน จึงควรร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดประโยชน์ เเละมีประสิทธิภาพ
 
การถอดบทเรียนจากชุมชนที่เคยมีประสบการณ์โดยตรงเป็นอีกเเนวทางหนึ่ง ที่ผู้ดำเนินงานต้องการสะท้อนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงปัญหา เเละผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเป็นเเผนยุทธศาสตร์ควบคุมเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ไว้ใช้เป็นเเนวทางในการปฏิบัติ
 
จากการหารือ ทำให้ได้ยุทธศาสตร์ที่สำคัญร่วมกัน 4 ข้อ ได้เเก่ การปรับเปลี่ยนค่านิยมสังคม โดยร่วมกันกันรณรงค์งดเหล้าในงานบุญ หรือ เทศกาลต่างๆ การลดปัญหาสุรากลั่นในชุมชน เนื่องจากจำนวนโรงกลั่นสุราในพื้นที่ภาคเหนือมีจำนวนมาก ประชาชนหาซื้อง่าย เพราะราคาถูก จึงจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบคุณภาพสุราชุมชน รวมถึงมีมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับสุรากลั่นชุมชนอย่างจริงจัง การบังคับใช้กฎหมาย โดยให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์จังหวัด มีการตรวจเตือน เเละตรวจจับอย่างอย่างสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่นของฝ่ายนโยบาย โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เเละนายอำเภอ มีการติดตามประเมินผล เเละตรวจสอบ รวมถึงให้การสนับสนุนการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
 
โดย 1 เดือนหลังจากนี้ เเผนงานทั้งหมดจะถูกนำไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าประมาณต้นเดือนกันยายนนี้ ทั้ง 6 จังหวัด จะสามารถเริ่มขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ได้
 


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง