ตำรวจสั่งปิดโรงสีทุจริตรับจำนำข้าว 8 แห่ง ในข้อหายักยอกทรัพย์
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกผู้บังคับการตำรวจทั่วประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบผลการปฎิบัติการลงพื้นที่ตรวจค้นโรงสีข้าว และคลังข้าวทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เป็นการตรวจสอบเพื่อรวบรวมข้อมูล ผลการลงพื้นที่ตรวจโรงสีและคลังข้าว ว่ามีข้าวคงเหลือจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบโรงสีมีความผิดปกติจำนวน 27 แห่ง และสั่งปิดโรงสีที่กระทำผิดแล้ว 8 แห่ง โดยจะดำเนินคดีกับโรงสีใน จ.สงขลา, จ.ชัยนาท, จ.ปทุมธานี, จ.พัทลุง ในข้อหายักยอกทรัพย์ รวมถึงส่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบโรงสีเพิ่มเติม ในจังหวัดนครราชสีมาอีก 11 แห่งด้วย
ขณะที่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปพบปะ และชี้แจง หลักสูตรการลดต้นทุน การปลูกข้าวกับชาวนาในจังหวัดพิจิตร เพื่อเตรียมพร้อมหากมีการปรับลดราคารับจำนำในอนาคต โดยชาวนาส่วนใหญ่ ต้องการให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบโรงสี ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อไม่ให้ถูกโกงซ้ำอีก
รมช.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า โรงสีแอลโกล์แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ที่โกงชาวนาและทำให้ชาวนาเดือดร้อนกว่า 300 คน ล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดหาพันธุ์ข้าว และปุ๋ยนำมาช่วยเหลือ เพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น
ส่วนด้านคดี ตำรวจยังคงเร่งสืบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันโกงข้าวจากชาวนาและข้าวในโครงการรับจำนำที่หายไปถึง 8,000 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่จับผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน ส่วนที่เหลืออีก 6 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว