ครม.เตรียมรับสรุปรายงานผลการตรวจสอบสต๊อกข้าว

การเมือง
9 ก.ค. 56
05:34
100
Logo Thai PBS
ครม.เตรียมรับสรุปรายงานผลการตรวจสอบสต๊อกข้าว

ครม.เตรียมรับสรุปรายงานผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ขณะที่กบอ.เสนอเรื่องการดำเนินการตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (9 ก.ค.2556)  ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีวาระการประชุมที่สำคัญอาทิ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เสนอเรื่องการดำเนินการตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 15 จังหวัด

โดยเสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 15 จังหวัด ในวงเงินทั้งสิ้น 168,229,000 บาท และเมื่อกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์เป้าหมายตามที่กำหนดไว้แล้ว หากมีเงินเหลือจ่ายให้ส่งคืนสำนักงบประมาณในโอกาสแรกด้วย

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือ ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สรุปรายงานผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลให้ครม.รับทราบ ในเบื้องต้นพบโรงสีที่มีความผิดปกติทั้งสิ้น 27 แห่ง สั่งดำเนินคดีไปแล้ว 4 แห่ง คือ 1.โรงสีวงษ์ชัยเจริญธัญกิจ บจก.วงษ์ชัยเอ็นจิเนียริ่ง จ.ชัยนาท กรณีข้าวสารจำนวน 555 ตัน มีสิ่งปลอมปนและข้าวเน่าเสียมาก 2.โรงสีไฟภิญโญพานิช จ.ปทุมธานี กรณีที่ตามเอกสารมีข้าวสารจำนวน 12 ตัน แต่จากการตรวจสอบไม่พบ 3.โรงสีเอกสุวรรณการค้า จ.สงขลา กรณีข้าวเปลือกหายจำนวน 644 ตัน ข้าวสารหาย 180 ตัน และ 4.โรงสีรุ่งอรุณ จ.พัทลุง กรณีข้าวเปลือกเกิน และข้าวสารขาดบัญชีและส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบเพิ่มอีก 11 แห่ง เนื่องจากนี้พบว่ามีข้าวเกินเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ และอีก 12 แห่ง มอบผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะไม่ชัดเจนทางบัญชี ทั้งนี้ ในโรงสี 27 แห่ง มี 8 แห่ง ที่กรมการค้าภายใน สั่งปิด เนื่องจากมีการนำข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำข้าว กับข้าวส่วนตัวมารวมกัน ซึ่งเป็นการทำผิดระเบียบ

ด้านสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สม.) เสนอผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เรื่องสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ) โดยสม.ขอให้ครม.รับทราบและเห็นชอบ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่องสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา

กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการแก้ไขปัญหามิให้มีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 49 และมาตรา 80 ประกอบมาตรา 29 ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 26 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ข้อ 13 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับมิติด้านสิทธิและเสรีภาพ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพันธกรณีระหว่างประเทศ ที่ให้การคุ้มครองและรับรองไว้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง