กกท.ส่งหนังสือถึงสมาคมฟุตบอล เร่งจัดประชุม เพื่อรับรองธรรมนูญฟีฟ่าก่อนกำหนด
หลังจากที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำหนังสือให้สมาคมฟุตบอลจัดการประชุมเพื่อรับรองธรรมนูญฟีฟ่าอย่างเร่งด่วนก่อนเส้นตายกำหนดรักษาการนายกสมาคมฟุตบอลจะจบลงในวันที่ 16 กรกฎาคม สมาคมฟุตบอลได้ทำหนังสือรายงานไปยังฟีฟ่าซึ่งขณะนี้ยังต้องรอหนังสือตอบกลับจากฟีฟ่า และจากนั้นจะได้ชี้แจงไปยัง กกท.ขณะที่ กกท.ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลโดยให้เหตุผลว่านายวรวีร์ยังไม่หมดวาระในตำแหน่งรักษาการ รวมถึงยังมีกำหนดที่สโมสรสมาชิกยื่นขอให้สมาคมฟุตบอลจัดการเลือกตั้งภายใน วันที่ 23 กรกฎาคมอีกด้วย
สำหรับกลุ่มชลบุรีได้ใช้อำนาจตามกฎหมายแพ่งและพานิชย์เพื่อขอให้สมาคมจัดการเลือกตั้ง กรณีนี้ กกท.ทำได้เพียงเข้ามาสังเกตการณ์เท่านั้นแต่ไม่สามารถไปดำเนินการจัดการเลือกตั้งแทนได้ และเมื่อพ้นกำหนดเวลา กกท.ต้องทำตามขั้นตอนโดยขั้นแรกมีอำนาจในการเรียกสมาคมฟุตบอลเข้ามาชี้แจงสาเหตุของการไม่สามารถจัดการเลือกตั้งซึ่งต้องรอให้พ้น วันที่ 16 กรกฏาคมไปก่อน หากมีเหตุผลที่ไม่สมควร กกท.จึงจะนำเรื่องเข้าสู่บอร์ดเพื่อพิจารณาซึ่งอาจจะใช้เวลานาน แต่หากสโมสรสมาชิกที่ยื่นขอจัดเลือกตั้ง พบว่ามีการทำผิดข้อบังคับสามารถยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง และพาณิชย์ได้ โดยไม่ต้องอาศัยอำนาจของ กกท.
ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสมาคมฟุตบอล รวมทั้งสมาคมกีฬาใหญ่ๆ อย่างสมาคมยิงปืน และสมาคมมวยสากลมักจะยืดเยื้อกลายเป็นหนังชีวิต เพราะสมาคมกีฬาขึ้นอยู่กับกฎหมาย 2 ฉบับคือกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์เนื่องจากต้องจดทะเบียนรับรองการเป็นสมาคมโดยกรมการปกครอง ขณะเดียวกันก็อยู่ภายใต้ พรบ.การกีฬาแห่งประเทศไทย นอกจากนั้นข้อบังคับของแต่ละสมาคมยังมีความแตกต่างซึ่งต้องดูรายละเอียดเป็นรายสมาคม เมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้มีอำนาจในแต่ละสมาคม ต่างฝ่ายต่างหยิบยกข้อกฎหมายที่คาดว่าฝ่ายตนจะได้ประโยชน์มากที่สุดมาใช้ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่เป็นข้อเท็จจริงคนละมิติจึงทำให้ความขัดแย้งหาข้อยุติยาก แต่ในอนาคตปัญหาต่างๆเหล่านี้จะหมดไปได้หากการแก้ไข พระราชบัญญัติกีฬาฉบับใหม่สำเร็จโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้ กกท.มีอำนาจในการรับจดทะเบียนสมาคมแทนกรมการปกครอง มีอำนาจในการลงโทษสมาคม และผู้บริหารได้ตามกฎหมาย