ปัญหาเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
หลังคามุงจากที่ขาดวิ่น เรือนไม้เก่าๆที่ผุพัง ทำให้ในยามฝนตกหนัก 6 ชีวิตของครอบครัวเจ๊ะโซ ต้องไปขออาศัยเพื่อนบ้าน ในตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสพักพิง และความยากจน ทำให้พี่ๆ ต้องตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อเปิดทางให้เด็กชายฮาหามะ เจ๊ะโซ น้องชาย ซึ่งเป็นคนเรียนดีที่สุดในบ้านได้เรียนหนังสือต่อ แต่รายได้จากแม่ที่รับจ้างล้างจานวันละ ๔๐ บาท และพี่ๆที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งบางวันไม่มีคนจ้าง ทำให้ฮาหะมะ เริ่มไม่มั่นใจว่า ความฝันของครอบครัวที่ฝากไว้กับเขาจะเป็นจริงได้
นายอุสมาน โสภาพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านบาโงปะแต ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ เผยว่า ความยากจนของครอบครัวอาหะมะ เป็นสภาพความเป็นอยู่ที่ยากไร้ เช่นเดียวกับชาวบ้านอีกหลายคนในชุมชนบ้านบาโงปะแต ซึ่งเยาวชนอายุน้อยหลายคนต้องหยุดเรียนหนังสือ เพื่อออกมาหางาน เด็กๆที่นี้ บอกว่าพวกเขาอยากมีงานทำ และอยากมีโอกาสเหมือนคนอื่นๆ แต่การเข้าถึงทุนสำหรับเด็กชายขอบยังยากเกินไป
ประชากรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรายได้ต่อหัวเฉลี่ยประมาณ 47,000 บาทต่อคนต่อปี ต่ำกว่ารายได้ต่อหัวเฉลี่ยของคนทั้งประเทศซึ่งอยู่ที่ประมาณ 74,000 บาท โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาส ที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดเพียง 29,000 บาท ประกอบครอบครัวของชาวมุสลิมส่วนใหญ่มีลูกมาก ทำให้หลายครอบครัวขัดสนเรื่องเงินทอง แม้จะมีความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐอยู่บ้าง แต่ปัญหาความไม่สงบที่ใหญ่กว่า ทำให้ปัญหาความยากจน กลายเป็นลำดับท้ายๆที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญ และแม้ว่าจะมีองค์กรเอกชนระหว่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
แต่ในปีนี้พบว่า หลายประเทศจะยกเลิกการอุดหนุนเรื่องทุนแก่เด็กๆใน3 จังหวัด เพราะต้องการย้ายฐานการให้ทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ด้อยพัฒนามากกว่า ทำให้เยาวชนกว่าร้อยครอบครัวได้รับความเดือดร้อน