ตำรวจเตรียมจัดกำลังรับการชุมนุมแรงงานบริษัทสหฟาร์ม
หลังเกิดกรณีแรงงานในเครือบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไก่ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศเรียกร้องค่าจ้างที่บริษัทติดค้าง เนื่องจากมีการประกาศยกเลิกกิจการ ซึ่งตัวแทนบริษัทฯเจรจา ขอจ่ายค่าจ้างให้ในรอบแรกในวันนี้ (15 กรกฎาคม)
พันตำรวจเอกอรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดประชุมประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์การเรียกร้องค่าจ้างของกลุ่มแรงงาน โดยมีตำรวจจากท้องที่ สถานีตำรวจภูธรบึงสามพัน และสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมตัวแทนบริษัทสหฟาร์มเข้าร่วมประชุม
เบื้องต้นมีข้อสรุปว่า ตำรวจจะจัดกำลังชุดควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย ให้เข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่บริษัท รวมทั้งให้มีการจัดเตรียมรถดับเพลิงไว้เพื่อป้องกันเหตุหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือบานปลายขึ้น
ขณะที่ทางตัวแทนบริษัทสหฟาร์มได้แจ้งยืนยันว่า เงินค้างจ้างที่เตรียมจ่ายให้แก่แรงงาน ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว โดยแรงงานที่ถือบัตรเอทีเอ็มจะเริ่มเบิกถอนเงินได้ตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป ส่วนแรงงานที่ไม่มีบัตรเอทีเอ็มซึ่งมีราว 2,000 คน ทางบริษัทจะจ่ายเป็นเงินสดให้
สำหรับบริษัทสหฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเนื้อไก่และไก่แปรรูป ประกาศปิด 2 โรงงานที่ อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 600,000 ตัวต่อวัน และโรงงานที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 400,000 ตัวต่อวัน เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังเกิดปัญหาภาระหนี้สินจากการขยายกำลังการผลิต ซึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกในแวดวงธุรกิจ เนื่องจากมีหนี้ค้างจ่ายธนาคารพาณิชย์ ซัพพลายเออร์ที่ขายวัตถุดิบ ขายพันธุ์ไก่ เกษตรกรที่ทำไก่ประกัน รวมถึงการค้างค่าจ้างพนักงานกว่า 10,000 คน
มีการเปิดเผยข้อมูลด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดทำแผนปรับโครงสร้างหนี้ พบว่า บริษัท สหฟาร์ม มีมูลหนี้ทั้งหมดกว่า 30,000 ล้านบาท จากเจ้าหนี้ทั้งหมด 50 ราย เป็นหนี้สถาบันการเงิน ประมาณ 14,000 ล้านบาท มาจาก 8 สถาบันการเงิน ซึ่งรายใหญ่ คือธนาคารกรุงไทย มูลหนี้ 6,900 ล้านบาท ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) 1,600 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ 1,000 ล้านบาท และธนาคารธนชาต 3,000 ล้านบาท
ส่วนอีก 4 แห่ง มีมูลหนี้หลักร้อยล้าน ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, เอสเอ็มอีแบงก์, เอ็กซิมแบงก์ และธนาคารกรุงเทพ นอกจากนี้ สหฟาร์มยังมีหนี้การค้าจากซัพพลายเออร์ต่างๆ อีกกว่าหมื่นล้านบาท