ตร.เร่งสอบสวนการเสียชีวิตของนักเรียนกว่า 20 คน ว่าเป็นการจงใจหรือไม่
จากเหตุการณ์เด็กนักเรียนอายุ 4-12 ปี ล้มป่วย ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังรับประทานอาหารกลางวันตามโครงการอาหารฟรีของรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยผัก ถั่วและข้าว ในโรงเรียนประถมในเขตชาปรา (Chapra) ในรัฐพิหารทางภาคตะวันออกของอินเดีย จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาหารอาจปนเปื้อนสารพิษ ล่าสุดตัวเลขเด็กที่เสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 คน และยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 30 คน ในจำนวนนี้มีอาการน่าวิตก 3 คน
ล่าสุดมีรายงานว่า มีการตรวจพบสาร "ออร์แกนโนฟอสฟอรัส" (Organophosphorus) ซึ่งเป็นสารประกอบของฆ่าแมลงที่นิยมใช้ในการเกษตร ในตัวอย่างอาหารปนเปื้อน และในเศษอาหารที่เด็กอาเจียนออกมา โดยรัฐมนตรีศึกษาของอินเดียเปิดเผยว่า สารพิษดังกล่าวอาจปนเปื้อนในผัก ขณะที่พ่อครัวของโรงเรียน ซึ่งล้มป่วย และต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังรับประทานอาหารปนเปื้อนเช่นเดียวกับเด็ก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร เพราะตอนปรุงอาหารเห็นตะกอนที่ก้นขวดน้ำมัน และได้กลิ่นเหม็นของน้ำมัน แต่เมื่อแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ครูใหญ่กลับไม่สนใจ และให้ใช้น้ำมันดังกล่าวประกอบอาหารต่อไป ขณะที่เด็กนักเรียนต่างก็บ่นว่าอาหารมีกลิ่นแปลกๆ
เหตุสลดใจที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อแม่เด็ก ซึ่งรวมตัวประท้วงด้วยความโกรธแค้น บุกโจมตีโรงพัก และจุดไฟเผารถตำรวจ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น ขณะที่มุขมนตรีของรัฐพิหารประกาศจะให้เงินช่วยเหลือครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตครอบครัวละ 200,000 รูปีหรือประมาณ 180,000 บาท
ทั้งนี้่รัฐบาลอินเดียกำลังดำเนินโครงการอาหารโรงเรียนฟรี ซึ่งเป็นโครงการอาหารฟรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมเด็กนักเรียนถึง 120 ล้านคน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กเข้าโรงเรียนมากขึ้น ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า ประชากรเด็กของอินเดียเกือบครึ่งเป็นเด็กขาดสารอาหาร