การดำเนินคดีกับ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ หลังจากศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 3 ข้อหา ไปแล้ว คือความผิดพรากผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 15 ปี ข้อหาฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และทางกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือเดินทางที่ออกให้เมื่อวันที่ 6 ก.ค.54 ของนายวิระพล และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานงานไปยังองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ อินเตอร์โพล และประสานงานไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ เพื่อระงับการออกวีซ่าให้กับนายวิรพล โดยสืบทราบว่านายวีระพล อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีการประสานทางการสหรัฐฯขอตัวนายวีระพล ที่เป็นผู้ต้องหาข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.นำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจค้นร้านแสงเจริญประดับยนต์ ของนายศุภราช วิริยพงศ์ หรือ เสี่ยกัง ซึ่งเป็นผู้จัดหารถ ให้ อดีตพระเณรคำ
เจ้าหน้าที่ได้อายัดรถยนต์ที่อยู่ในครอบครอง ของนายศุภราช จำนวน 15 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ไปตรวจสอบ หลังพบว่า รถทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของอดีตพระเณรคำ ที่ได้จากเงินบริจาค นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของนายศุภราช ที่เกี่ยวข้องกับอดีตพระเณรคำ อีกกว่า 30 ล้านบาท ที่นายศุภราช ต้องนำเอกสารมาชี้แจงแหล่งที่มา
เจ้าหน้าที่ ยังเข้าตรวจค้น ที่สำนักสงฆ์ขัตติบารมี สาขา 1 บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร และสอบปากคำนายสุริ สุขผล น้องชายอดีตพระเณรคำ ก่อนอายัดทรัพย์สินทั้งหมด และสั่งให้ผู้ดูแลทรัพย์สิน ห้ามเคลื่อนย้าย พร้อมเตรียมขยายผลยึดทรัพย์อดีตพระเณรคำ เพิ่มอีก 59 รายการ มีทั้งที่ดิน สิ่งปลูกสร้างรถยนต์ และเงินในบัญชี มูลค่ารวมกว่า 60 ล้านบาท
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการจัดตั้งที่พักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นวัด ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ขณะนี้พระสงฆ์ ที่จำวัด อยู่ กว่า 20 รูป ได้ทยอยเดินทางไปรายงานตัว ยังต้นสังกัดเดิม ตามมติของคณะสงฆ์แล้ว ซึ่งหลังการยืนยันสังกัดที่ชัดเจน พระสงฆ์จะกลับมาจำพรรษา ที่พักสงฆ์ขันติธรรมอีกครั้ง