แบงก์ชาติเตือนเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเตือนรัฐบาลทบทวนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านการบริโภค ควบคู่กับการพัฒนาด้านปัจจัยการผลิต ก่อนประเทศล้าหลัง และพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลยกระดับรายได้ประชากร และแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

แม้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย จนสำนักเศรษฐกิจหลายแห่งตลอดจนธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติปรับลดประมาณการณ์จากเดิมร้อยละ 5.1 เหลือร้อยละ 4.2โดยนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อัตราดังกล่าวเหมาะสม และสนับสนุนรัฐบาล หากกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังด้วยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนในหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ก่อนแสดงสถิติสำคัญทางเศรษฐกิจทั้งอัตราการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ จีดีพี รายได้ประชากร และประสิทธิภาพการผลิตอุตสาหกรรมสำคัญ เพื่อชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย ซึ่งชัดเจนในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะนโยบายแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรในราคาสูงกว่าตลาด ทำให้เกิดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานออกไปในอุตสาหกรรมผลิตภาพต่ำ จนเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งยังขาดการสนับสนุนเพิ่มความสามารถด้านศึกษาในเชิงคุณภาพ และงานวิจัยที่ต่อเนื่อง ทำให้แรงงานในตลาดไม่สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย รัฐบาลจึงควรดำเนินนโยบายพัฒนาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตควบคู่กับกระตุ้นการบริโภค ซึ่งแบงก์ชาติพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โดยไม่พึ่งเครื่องมืออัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นายประสาร กล่าวอีกว่า ปัญหาความไม่แน่นอนในการทยอยลดปริมาณอัดฉีดเม็ดเงินในระบบสถาบันการเงินของสหรัฐอเมริกา หรือ คิวอี เป็นอีกความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง แต่สถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุนขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะฐานะการเงินประเทศ และบัญชีเงินระหว่างประเทศยังแข็งแกร่ง แต่แบงก์ชาติไม่ประมาทได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว พร้อมกำชับธนาคารพาณิชย์ติดตามสถานะลูกค้าที่มีหนี้ต่างประเทศให้อยู่ในระดับสมดุล เพื่อลดความเสี่ยงในตลาดการเงิน