จับตา "ซาแจกิ" ขบวนการปั่นชาร์ตเพลงในเกาหลีใต้ ให้ได้รับความนิยมเกินจริง

Logo Thai PBS
จับตา "ซาแจกิ" ขบวนการปั่นชาร์ตเพลงในเกาหลีใต้ ให้ได้รับความนิยมเกินจริง

ความสำเร็จบนชาร์ตเพลงที่เคยเชื่อว่าเกิดจากความรักของแฟนเพลง ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริงเสมอไป เมื่อพบว่าในวงการเพลงเกาหลีใต้มีบางค่ายเพลงที่ใช้วิธีการปั่นกระแสความ นิยมในชาร์ตเพลง บิดเบือนความนิยมที่แท้จริงในวงการเพลงแดนโสม

ชัยชนะบทชาร์ตเพลงในแต่ละสัปดาห์ในวงการเพลงเกาหลีใต้ นอกจากจะทำให้ซิงเกิลนั้นๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ยังช่วยสร้างความโด่งดังให้กับศิลปินท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในวงการเค ป็อปทุกวันนี้ แต่ความต้องการได้มาซึ่งสำเร็จเช่นนั้น กลับทำให้ค่ายเพลงบางค่ายใช้วิธีไม่ถูกต้องด้วยการปั่นยอดการสตรีมมิ่งและ การดาวน์โหลดของบทเพลง จนกลายเป็นที่มาความนิยมเพียงข้ามคืนสำหรับผลงานของศิลปินบางราย

ล่าสุดทาง 3 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของวงการเคป็อป ทั้ง SM, YG, JYP รวมถึงค่าย Star Empire Entertainment ได้ยื่นฟ้องต่อสำนักงานอัยการของกรุงโซล ให้มีการสอบสวนการทุจริตการจัดอันดับชาร์ตเพลงในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าในวงการมีค่ายเพลงบางค่ายว่าจ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญใน การปั่นกระแสทางอินเทอร์เน็ท ทำการแฮกข้อมูลตามชาร์ตเพลงต่างๆ เพื่อเข้าไปเพิ่มยอดการสตรีมมิ่งและดาวน์โหลดของบทเพลงนั้นๆ ซึ่งจะทำให้ค่ายเพลงนั้นๆ ได้รับค่าลิขสิทธิ์เพลงเพิ่มขึ้น และทำให้ศิลปินเจ้าของบทเพลงมีโอกาสไปโปรโมทผลงานตามรายการต่างๆ มากขึ้น

ในเกาหลีใต้มีคำที่ใช้เรียกเพลงที่โด่งดังเพียงข้ามคืนด้วยวิธีการปั่นชาร์ตว่า ซาแจกิ ซึ่งเชื่อกันว่ามีบริษัทรับทำซาแจกิอยู่ 3-5 แห่งในเกาหลีใต้ โดยคิดค่าจ้างสำหรับศิลปินที่ดังอยู่แล้วเพลงละ 300,000 ดอลลาร์ ส่วนเพลงของศิลปินหน้าใหม่สามารถติดชาร์ตท็อป 20 ได้ในเวลา 4-5 วันด้วยค่าจ้าง 500,000 ดอลลาร์ ซึ่งกระบวนการนี้มักจะทำขึ้นในช่วงเช้ามืดที่ไม่ค่อยมีใครสังเกต โดยผู้ปั่นจะสร้างบัญชีของผู้ฟังแบบสตรีมมิ่งเพื่อทำการปั่นยอดเพลงให้มี จำนวนการฟังเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นครั้งในวันเดียว ซึ่งผิดหลักความจริงที่ว่าเพลงหนึ่งเพลงสามารถเปิดวนในวันหนึ่งได้ไม่เกิน 500 ครั้งเท่านั้น

ล่าสุดทางกระทรวงวัฒนธรรม, กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ได้ออกมาตรการรับมือการปั่นชาร์ตเพลง ด้วยการแนะนำให้เพิ่มการให้ความสำคัญกับยอดดาวน์โหลดมากกว่ายอดการสตรีมมิ่ง ซึ่งการดาวน์โหลดที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าถึง 20 เท่า น่าจะทำให้ค่ายเพลงทำการทุจริตได้ยากขึ้น ซึ่งหากพบว่าเพลงไหนมีการจัดตั้งคะแนนนิยม ก็จะมีการริบค่าลิขสิทธิ์ของบทเพลงนั้นๆ ทันที


ข่าวที่เกี่ยวข้อง