ผู้ประกอบการย้ำรถทัวร์ 2 ชั้นไทยปลอดภัยมีมาตรฐาน
การเกิดอุบัติเหตุรถโดยสาร 2 ชั้นบ่อยครั้ง ได้ถูกตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของรถประเภทนี้ว่า เหมาะสมกับการนำมาโดยสารหรือไม่ และทำให้กระทรวงคมนาคมต้องเข้ามาศึกษาหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ซึ่งหากผลการศึกษาระบุว่า รถโดยสาร 2 ชั้นไม่ปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ก็จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้ใช้เฉพาะรถโดยสารชั้นเดียวรับส่งผู้โดยสาร
ขณะที่ไทยพีบีเอส ได้ลงพื้นที่ยังโรงงานซึ่งรับประกอบรถทั้งเเบบชั้นเดียว และ 2 ชั้น โดยผู้บริหารโรงงานแห่งนี้ยืนยันว่า โรงงานรับประกอบรถที่โครงรถหรือคัสซีใหม่เท่านั้น โดยก่อนรับประกอบรถ จะหารือกับลูกค้าว่าต้องการรถรูปแบบไหน ทั้งโครงรถ, ลักษณะด้านนอก และห้องโดยสาร รวมไปถึงวัสดุที่ประกอบตัวรถ ที่ต้องเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และที่สำคัญจะไม่รับดัดแปลงรถเด็ดขาด
กระบวนการประกอบรถ เริ่มตั้งแต่นำคัสชีมาขึ้นโครง, ประกอบตัวถัง, พ่นสี และทำการตกแต่งภายใน โดย 1 คันใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ส่วนราคาจะอยู่ที่คัน 7-8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์ที่เจ้าของรถเลือกใช้ และก่อนส่งมอบรถให้ลูกค้า รถทุกคันต้องทดสอบว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น รถโดยสาร 2 ชั้น ต้องสูงไม่เกิน 4.30 เมตร ยาวไม่เกิน 12 เมตร
ขณะที่ผู้ประกอบการรถร่วม บขส.บางราย ยืนยันว่า รถโดยสาร 2 ชั้นที่ให้บริการในปัจจุบัน มีมาตรฐาน และจุผู้โดยสารได้มากกว่ารถชั้นเดียวก็จริง แต่ก็เชื่อมั่นในความปลอดภัยของรถโดยสารชั้นเดียว เนื่องจากโครงสร้างสมดุลกว่า
ด้านสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทยระบุว่า สมาชิกในสมาคมฯ มั่นใจว่า รถโดยสารในประเทศมีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการตระหนัก รวมทั้งสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือข้อบังคับ และกฎหมาย ที่เข้ามาควบคุม
ขณะเดียวกัน สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย เตรียมหารือ สมาคมโดยสาร และรถบรรทุกต่างๆ ถึงรูปแบบรถโดยสารสาธารณะในไทย และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน หากผลการศึกษาของกระทรวงคมนาคมชี้ว่า รถโดยสารชั้นเดียวปลอดภัยกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันวางแนวทางเพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการอย่างเคร่งครัดคือ นำกฎหมายการควบคุมความเร็วรถโดยสาร และควบคุมอย่างจริงจัง ซึ่งจะทำให้อุบัติเหตุลดลงได้