นานาชาติประณามรัฐบาลอียิปต์ใช้กำลังสลายการชุมนุม

ต่างประเทศ
15 ส.ค. 56
04:11
54
Logo Thai PBS
นานาชาติประณามรัฐบาลอียิปต์ใช้กำลังสลายการชุมนุม

สถานการณ์ในอียิปต์ยังรุนแรง หลังรัฐบาลรักษาการใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี ที่ถูกกองทัพโค่นลงจากอำนาจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ทางการอียิปต์ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงไคโร เมืองอเล็กซานเดรียและอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่ 21.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ส.ค.2556)ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดเหตุนองเลือดรุนแรง เมื่อมีการใช้กำลังสลายค่ายผู้ประท้วง 2 แห่งในกรุงไคโร ซึ่งเป็นที่ปักหลักชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี ที่ถูกกองทัพโค่นลงจากอำนาจ โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของอียิปต์ยิงกระสุนเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก คาดว่าภาวะฉุกเฉินจะผลบังคับใช้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

ความรุนแรงยังลุกลามออกไปในอีกหลายเมืองทั่วประเทศ โดยในเมืองซูเอซ กลุ่มผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีมูร์ซีได้บุกจู่โจมตีอาคารที่ทำการรัฐบาล ทำให้กองกำลังรักษาความมั่นคงต้องใช้กำลังเข้าสลาย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน นอกจากนี้ยังเกิดความรุนแรงในเมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดอันดับ 2 และในเมืองอัล-อาริช ซึ่งผู้ประท้วงได้บุกโจมตีและปล้มสะดมโบสถ์คริสต์ ขณะที่ในเมืองชาร์คีย่า ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีมูร์ซี มีความรุนแรงเกิดขึ้นด้วย ขณะที่มีรายงานว่ามีโบสถ์คริสต์ถูกโจมตีและเผาทำลายถึง 7 แห่งทั่วประเทศ

กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิต ล่าสุดเพิ่มเป็น 278 คนจากการปะทะกันทั้งในกรุงไคโรและอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 235 คน ตำรวจ 43 นาย และมีผู้สื่อข่าวต่างชาติถูกยิงเสียชีวิตขณะรายงานข่าวคือนายมิค ดีน ช่างภาพสำนักข่าวสกายนิวส์ของอังกฤษ โดยดีนทำงานกับสกายนิวส์มานานถึง 15 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ขณะที่มีรายงานว่าสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมของนายมูซีร์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศถูกทางการจับกุมตัวไปสอบปากคำ

นับเป็นเหตุนองเลือดจากการสลายการชุมนุมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของอียิปต์ ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติ ขณะที่นายฮาเซ็ม เอล เบบลาวี รักษาการนายกรัฐมนตรีของอียิปต์ กล่าวปกป้องการตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม โดยบอกว่ารัฐบาลไม่มีทางเลือก และต้องใช้กำลังเพื่อรักษาความสงบ หลังการประท้วงซึ่งอ้างว่าเป็นการแสดงออกถึงเสรีภาพ กลายเป็นสิ่งที่คุกคามความสงบสุข มีการซ่องสุมอาวุธ ปิดถนนและล่วงละเมิดทรัพย์สินสาธารณะ พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลอดกลั้นอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังพยายามคลี่คลายปัญหาด้วยการเจรจา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

ด้านนายโมฮัมเหม็ด เอลบาราเดย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล(ไอเออีเอ) และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำต่อต้านอดีตประธานาธิบดีมูร์ซีประกาศลาออกจากตำแหน่งรักษาการรองประธานาธิบดีแล้ว เพราะเห็นว่าการใช้กำลังไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

ขณะที่นานาชาติพากันประณามการใช้กำลังของรัฐบาลรักษาการอียิปต์ โดยนางแคทเธอรีน แอชตัน นักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรปเตือนให้กองกำลังรักษาความมั่นคงของอียิปต์ใช้ความอดกลั้นและเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการของอียิปต์ยกเลิกภาวะฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด ขณะที่นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงเหตุนองเลือดจากการสลายการชุมนุมในอียิปต์ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจและสวนทางกับเจตนารมณ์ของชาวอียิปต์ที่ต้องการสันติภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริง

กลุ่มภราดรภาพมุสลิมและกลุ่มผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีมูร์ซีปักหลักชุมนุมประท้วง ตั้งแต่นายมูร์ซีถูกกองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2556 และต้องการให้นายมูร์ซี ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของประเทศ กลับเข้าดำรงตำแหน่งตามเดิม ขณะที่นายมูร์ซีถูกทางการอียิปต์คุมขังอยู่ในสถานที่ที่ยังไม่มีการเปิดเผยและถูกกล่าวหาว่าวางแผนสังหารนักโทษและทหารระหว่างหลบหนีออกจากเรือนจำเมื่อปี พ.ศ.2554


ข่าวที่เกี่ยวข้อง