แบงก์ชาติห่วงหนี้ครัวเรือน
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ย้ำถึงความเป็นห่วง ต่อหนี้ภาคครัวเรือนที่เร่งตัวสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 80 ของจีดีพี หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อธุรกิจร้อยละ 2 พร้อมระบุการดูแลเศรษฐกิจต้องสร้างความสมดุล 3 ด้าน คือ หนี้ภาคธุรกิจ หนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน ซึ่งหนี้ตัวอื่นยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ ยกเว้นหนี้ครัวเรือนที่ต้องระมัดระวัง
โดยขณะนี้หนี้ครัวเรือนเร่งตัวสูงกว่ารายได้มาก จึงเกรงจะกระทบกับความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่จำเป็นออกมาตรการพิเศษ เพราะไม่ต้องการซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และขณะนี้ประชาชนเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายจากก่อหนี้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้กำชับธนาคารพาณิชย์ระวังการปล่อยกู้ ผู้ที่มีหนี้สูงกว่าร้อยละ 40
นายประสารระบุด้วยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย นิยามคำว่า หนี้ครัวเรือนเป็นไปตามหลักสากลเช่นเดียวกับต่างประเทศ คือสินเชื่อที่ปล่อยให้บุคคลธรรมดา และกิจการขนาดเล็กที่ไม่ได้จดทะเบียน
ก่อนหน้านี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ติงการออกบทวิจัยของธนาคารแห่งประเทศถึงสาเหตุหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ที่ระบุว่ามาจากดอกเบี้ยต่ำ, นโยบายรัฐ และการแข่งขันของสถาบันการเงิน พร้อมเห็นว่าควรนิยามหนี้ครัวเรือนใหม่ โดยในส่วนการกู้เงินของประชาชนเพื่อประกอบกิจการ ไม่ควรนำมารวมเป็นหนี้ครัวเรือน แต่ควรจัดให้อยู่ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ