สมาคมฟุตบอลยันใช้ธรรมนูญฟีฟ่า 72 เสียง เลือกนายกฯฟุตบอล

ปัญหาในสมาคมฟุตบอลที่มีมานานหลายเดือนจบแล้ว ด้วยการใช้ธรรมนูญฟีฟ่าในการเลือกตั้ง 72 เสียงและไม่มีการลดเสียงจากเอไอเอสลีกภูมิภาคตามที่เป็นข่าว แต่เปลี่ยนเป็นนำทีมอันดับ 1-5 ของทั้ง 6 โซนมาเลือกตั้งแทนการใช้เลือกผู้แทน เป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

ก่อนการประชุมสมาคมฟุตบอลมีการพูดคุย 3 ฝ่ายทั้งฟีฟ่า, เอเอฟซี, นายวิรัช ชาญพานิชย์ และนายวรวีร์ มะกูดี เป็นการพูดคุยนอกรอบก่อนประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการคัดเลือก 72 เสียงในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล ซึ่งทั้ง 3 ฝ่าย ตกลงให้คงสิทธิ์ของโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก กับยามาฮ่าลีกวัน และบอลถ้วย ข, ค, ง เท่าเดิมเหมือนกับกับสิทธิ์ของ เอไอเอสลีกภูมิภาค

แต่วิธีการคัดของเอไอเอสลีกภูมิภาคจะคัดเอาทีม อันดับ 1-5 ทั้ง 6 โซน ในเลกแรก รวมเป็น 72 เสียงเท่าเดิม และที่ประชุมสมาคมฟุตบอลไม่มีใครคัดค้านจึงเป็นอันว่า ธรรมนูญฟีฟ่าข้อ 21 ที่เกี่ยวกับจำนวนเสียงเลือกตั้งผ่านมติที่ประชุมแบบเป็นเอกฉันท์

โดยนายวรวีร์ มะกูดี ได้ประกาศกลางที่ประชุมว่าไม่ว่าตัวเองจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่พร้อมทำงานร่วมกับนายวิรัช ชาญพานิชย์

ซึ่งเสียงในเอไอเอสลีกภูมิภาค 6 โซนสำหรับอันดับ 1-5 ที่จะมีสิทธิ์เลือกตั้ง ภาคกรุงเทพฯและภาคกลางจะมี นนทบุรี ปากน้ำโพ ม.เกษตรศาสตร์ ศุลกากร ม.เกษมบัณฑิต ส่วนภาคเหนือ เชียงใหม่ พิษณุโลก สุโขทัย ลำปาง พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยเอ็ด หนองคาย ขณะที่ภาคกลางตะวันออกอย่าง จันทบุรี นครนายก ลูกอีสาน และภาคตะวันตก ประจวบ เมืองกาญจน์ ใต้ นรา ชุมพร พัทลุง

โดยข้อบังคับธรรมนูญฟีฟ่าของสมาคมฟุตบอลจะต้องนำไปจดทะเบียนกับกรมการปกครองภายใน 14 วัน แต่ในที่ประชุมประกาศจะกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 45 วัน