ตำรวจยืนยันไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุมชาวสวนยาง

สังคม
28 ส.ค. 56
04:17
46
Logo Thai PBS
ตำรวจยืนยันไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุมชาวสวนยาง

ตำรวจยืนยันว่า จะไม่ใช้กำลังในการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง และสวนปาล์ม ที่ชุมนุมอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้ออกหมายจับแกนนำการชุมนุมในเบื้องต้นแล้ว ขณะที่ รถไฟสายใต้เส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ ยังหยุดเดินรถทุกขบวน เบื้องต้น ร.ฟ.ท.ระบุว่า การปิดเส้นทางภาคใต้ ทำสูญรายได้วันละกว่า 3,000,000 บาท

หลังกลุ่มผู้ชุมนุม รวมตัวกันปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ ระหว่างสถานีชะอวด-บ้านตูน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่คืนวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ขบวนรถไฟขาขึ้นกรุงเทพฯทั้ง 5 ขบวน ยังคงต้องหยุดเดินรถชั่วคราว มีเพียงขบวนรถไฟท้องถิ่นเส้นทางตั้งแต่พัทลุง - หาดใหญ่ - 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงเปิดเดินรถตามปกติ

นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรแขวงเดินรถหาดใหญ่ กล่าวว่า หากยังคงมีการปิดเส้นทางรถไฟยืดเยื้อไป การเดินรถไฟเส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ จะหยุดเดินรถทั้งระบบทุกขบวน แต่หากสามารถเจรจาจนเปิดเส้นทางได้ รถไฟสายใต้ทุกขบวนก็พร้อมที่จะกลับมาให้บริการ โดยเฉพะขาขึ้นกรุงเทพฯซึ่งขณะนี้จอดรออยู่ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ทั้งหมดแล้ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ คืนตั่วให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางในช่วงที่มีการชุมนุม ตั้งแต่วันที่ 27-29 ส.ค.โดยเฉพาะขบวนรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว พร้อมกับชี้แจงสถานการณ์ให้เข้าใจ และเลี่ยงไปเดินทางด้วยระบบขนส่งอื่น ๆ แทน

ขณะที่ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการปิดเส้นทางแล้ว ทั้งรายได้จากรถโดยสารและรถขนส่งสินค้า ซึ่งปกติอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ยังเห็นว่า ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของประเทศ เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวในสื่อทั้งในและต่างประเทศว่า มีสถานการณ์การชุมนุม ที่ทำให้มีการปิดระบบคมนาคมของประเทศ

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บ.ข.ส. กล่าวว่า การปิดถนนของกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ ที่ให้บริการเส้นทางสายใต้รวมกว่า 100 เที่ยวต่อวัน แต่จะไม่หยุดให้บริการเดินรถ โดยมอบหมายให้พนักงานขับรถประสานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หากเส้นทางที่ผ่านมีการปิดถนนก็ให้อ้อมไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 10

ส่วนแนวทางการดูแลการชุมนุม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ปัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อติดตามสถานการณ์เต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง โดยสั่งการให้สันติบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ เกาะติดสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด

เบื้องต้นสรุปว่าขณะนี้มีผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรสวนยางในพื้นที่ที่เดือดร้อนจริงๆ และ กลุ่มคนนอกพื้นที่ และกลุ่มที่หวังผลทางการเมือง มีพรรคการเมืองหนุนหลัง รวมทั้งมีกลุ่มวัยรุ่นที่พร้อมก่อเหตุรุนแรง ซึ่งการชุมนุมที่มีการแยกส่วนเช่นนี้ทำให้การเจรจาไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีแกนนำที่ชัดเจน

ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศจะยกระดับการชุมนุม ในวันที่ 3 ก.ย.นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับให้มีการตั้งด่านตรวจค้น ตามจุดต่าง ๆ เพื่อคัดกรองอาวุธและบุคคลต้องสงสัย ,พร้อมให้จัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ให้พร้อมรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย โดยกำชับให้ใช้ความอดทน ละมุนละม่อมและใช้มาตรการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางจราจรเพื่อให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง สามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีนโยบายใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุม ตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน แต่จะเน้นการเจรจาอย่างสันติวิธี พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการดูแลการชุมนุม

ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย ล่าสุดศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำก่อเหตุรุนแรง 6 คน ในข้อหากระทำการใดๆให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จราจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ขณะที่เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติออกหมายจับไปแล้วจำนวน 9 คน ในข้อหาร่วมกันปิดกั้นทางหลวง หรือ นำสิ่งใดมาขวางหรือวางไว้บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 39


ข่าวที่เกี่ยวข้อง