นายกฯสั่งหลายกระทรวงเร่งแก้ไขปัญหาเกษตรกร
แม้จะมีข้อเรียกร้องให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ปักหลักชุมนุมในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช คืนพื้นที่การชุมนุม เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันจะชุมนุมต่อเนื่อง โดยเห็นว่า ยังมีเส้นทางเลี่ยงอีกหลายเส้นทางที่ใช้งานได้ ขณะที่การควบคุมดูแลการชุมนุม วันนี้ (29 ส.ค.) นอกจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่เพื่อวางมาตรการรับมือการชุมนุมแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้รัฐมนตรีหลายกระทรวงร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องหามาตรการเยียวยา พร้อมแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง ของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่ปักหลักชุมนุมปิดถนนสายเอเชีย ที่สี่แยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ และสามแยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเร่งด่วน
เบื้องต้น มอบให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณามาตรการช่วยเหลือต้นทุนด้านการปลูกยางพารา และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศึกษาแนวทางลดต้นทุนการผลิตยาง ทั้งในส่วนของปุ๋ยและการจัดเกษตรโซนนิ่ง เนื่องจากข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคา 120 บาทต่อกิโลกรัมเป็นไปได้ยาก
ส่วนการควบคุมดูแลพื้นที่การชุมนุม ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าของพื้นที่ ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางรับมือการชุมนุม โดยเบื้องต้น ได้ข้อสรุปว่า จะยังไม่มีการสลายการชุมนุม โดยจะเน้นการเจรจาหาทางออก ซึ่งในวันนี้ (29 ส.ค.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมายังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมารับทราบปัญหา และร่วมประชุมกับนายตำรวจในพื้นที่
ส่วนกรณีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการยื่นคำร้องต่อ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวกรณีฉุกเฉิน ให้ศาลมีคำสั่งเปิดเส้นทางถนนบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ และทางรถไฟแยกบ้านตูล ซึ่งศาลได้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากคำร้องไม่ได้ระบุผู้กระทำความผิด ทางตำรวจเห็นว่า เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะศาลระบุว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่มีอำนาจตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งศาล
ขณะที่สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครศรีธรรมราช และสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านภาคใต้ ได้แถลงข่าว เรียกร้องให้มีการยุติการชุมนุม และให้มีการเปิดเส้นทางเพื่อการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เจ็บป่วย ที่ต้องใช้เส้นทางเดินทางมายังโรงพยาบาล โดยในวันนี้ (29 ส.ค.) ทางกลุ่ม จะเดินทางไปพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งหนึ่ง พร้อมด้วย อสม. พระสงฆ์ นักเรียน และญาติผู้ป่วย เพื่อร้องขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเส้นทาง โดยจะใช้การเจรจาด้วยสันติวิธี
ขณะที่กลุ่มผู้รักสันติจาก 5 อำเภอ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อ.ชะอวด อ.เชียรใหญ่ อ.จุฬาภรณ์ อ.หัวไทร และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ออกประกาศเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุม ยุติการชุมนุมทันที พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการ จะเดินทางไปแจ้งความทุกโรงพัก ทั้ง 5 อำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช
