เรือผู้อพยพชาวโรฮิงญากว่า 400 คน ลอยลำกลับน่านน้ำไทยอีกครั้ง
สื่อมวลชนไทยหลายสำนักเช่าเรือเหมาลำออกตรวจสอบเรือชาวโรฮิงญาที่ลอยลำอยู่กลางทะเลและมุ่งหน้าเข้าน่านน้ำไทยห่างจากเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ประมาณ 8 ไมล์ทะเล การออกหาเรือชาวโรฮิงญาของสื่อมวลชนครั้งนี้ แม้จะถูกทัดทานจากเจ้าที่ของไทยเพราะเกรงว่าเรือที่เช่าเหมาลำจะรุกล้ำน่านน้ำประเทศมาเลเซีย หลังจากสื่อมวลชนสำนักข่าวต่างประเทศถูกทางการมาเลเซียจับข้อหารุกล้ำน่านน้ำประเทศมาเลเซีย
ส่วนเรือชาวโรฮิงญาที่ลอยลำเข้าน่านน่านน้ำพบว่าเป็นเรือลำเดียวกันที่ทางการไทยนำอาหารแจกจ่ายเมื่อ 2 วันก่อนและได้ผลักดันออกนอกน่านน้ำไทย เมื่อถึงน่านน้ำประเทศมาเลเซียกลับถูกทางการมาเลเซียผลักดัน เรือลำนี้ จึงลอยลำกลับเข้าน่านน้ำไทยอีกครั้ง แต่ไม่สามารถตรวจสอบพิกัดได้
ด้านฝ่ายความมั่นคงทางทะเลของไทยกังวลว่าการเดินทางของชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศใดได้ช่วงนี้อาจจะทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 400 คน อาจจะสละเรือทิ้ง และว่ายน้ำขึ้นหมู่เกาะต่างๆใน จ.สตูล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวนทางทะเล
ส่วนการติดตามผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาจำนวน 34 หมายจับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบฐานข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศพบว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับหลายคนหลบหนีออกจากประเทศ ไปซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่เรือของอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านใน จ.ระนอง พบผู้อพยพชาวโรฮิงญารอคอยความช่วยเหลือใกล้กับเกาะเหล็กของเมียนมา มีชาวประมงไทยได้ยินเสียงร้องตะโกนกลางดึกที่ผ่านมา จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครให้เข้าไปตรวจสอบบริเวณปากแม่น้ำกระบุรีคั่นกลางระหว่างเขตแดนไทยและเมียนมา
นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่าได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเมียนมาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เขาเรียกว่าเป็นความหายนะด้านมนุษยธรรมและหวังว่าเมียนมาจะตอบรับในเชิงบวก เพราะผู้ลี้ภัยเป็นปัญหาภายในของเมียนมา
ผู้อพยพคนหนึ่งเปิดเผยว่าชาวโรฮิงญาบนเรือฆ่ากันเองเพื่อแย่งชิงอาหารและโยนศพทิ้งทะเล เมื่อผู้อพยพชาวบังคลาเทศร้องขอส่วนแบ่งอาหารก็จะถูกทุบตี ชาวบังคลาเทศเล่าเหตุการณ์ว่าการต่อสู้เพื่อยื้อชีวิตบนเรือรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อเรือค่อยๆจมลงทีละน้อย เขาเห็นชาวโรฮิงญาคนหนึ่งถูกโยนลงทะเลและลอยคออยู่กลางทะเลถึง 6 ชั่วโมงก่อนได้รับการช่วยเหลือ
ขณะที่ผู้อพยพชาวโรฮิงญาและบังคลาเทศเกือบ 800 คนที่ขึ้นฝั่งบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียเมื่อวานนี้ ได้รับอาหารและน้ำดื่มระหว่างที่อาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้อพยพประมาณ 300 คน ได้รับการรักษาอาการป่วยในเต็นท์ที่ทำการพยาบาล หลายคนมีสภาพอิดโรยและป่วยเพราะขาดน้ำ นอกจากนี้มีผู้อพยพอีก 25 คนที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล
นายเจฟฟรีย์ ซาเวจ เจ้าหน้าที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในอินโดนีเซีย ระบุว่าจะเริ่มเก็บข้อมูลผู้ที่อพยพมาใหม่ พร้อมชี้แจงว่าผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นแรงงานชนกลุ่มน้อยในบังคลาเทศและอีกหลายคนเป็นชาวโรฮิงญา
ผู้อพยพชาวบังคลาเทศหลายคนต้องการกลับบ้านเกิด ซึ่ง UNHCR และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) จะช่วยส่งตัวกลับถ้าพวกเขาไม่กลัวว่าจะถูกกลั่นแกล้ง หากเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งก็จะขึ้นทะเบียนสถานะผู้ลี้ภัย