ยูเอ็นเผยมีชาวซีเรียไร้บ้าน 7 ล้านคน
นายทาริค คูร์ดี หัวหน้าสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่าตอนนี้มีชาวซีเรียประมาณ 7 ล้านคนหรือเกือบ 1 ใน 3 ของชาวซีเรียทั้งประเทศ เป็นคนไร้ที่อยู่ เนื่องจากความรุนแรงในประเทศที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี โดยในจำนวนนี้ 5 ล้านคน อยู่ในซีเรีย และอีกประมาณ 2 ล้านคน อพยพออกมาอยู่ตามค่ายพักพิงในประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ซึ่งทางยูเอ็นเอชซีอาร์ต้องการเงินเพื่อดูแลชาวซีเรียเหล่านี้ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 7,500 ล้านบาท แต่ตอนนี้ได้รับเงินช่วยเหลือเพียง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 210 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งไม่ถึง 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่ต้องการ
ด้านนายแอนเดอร์ โฟก์ห รัสมุนเซ็น ผู้บัญชาการกองกำลังนาโต้แถลงข่าวในกรุงบรัสส์เซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม บอกว่าในส่วนตัวแล้วเขาเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนจริง และหากมีการโจมตีซีเรียเกิดขึ้นจริง นาโต้ก็พร้อมที่จะปกป้องประเทศตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรของนาโต้ อาจถูกซีเรียโจมตีกลับ โดยเห็นว่าการใช้ปฏิบัติการทางทหารในซีเรียควรจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว,มีเป้าหมายชัดเจน และมีการวางแผนที่รัดกุม ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่นาโต้จะต้องเข้าไปร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้
ขณะที่นายจอห์น แมคเคน สว.จากพรรครีพับลิกัน สนับสนุนให้สหรัฐฯใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรีย แถลงว่าสหรัฐฯควรวางยุทธศาสตร์ในการโจมตีซีเรีย ด้วยการสนับสนุนให้กองกำลังของฝ่ายต่อต้านมีศักยภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องทำให้กองทัพซีเรียอ่อนแอลงให้มากที่สุด
ทั้งนี้บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะให้สภาคองเกรสร่วมกันพิจารณาตัดสินว่าควรจะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรียหรือไม่ ซึ่งสภาคองเกรสจะเปิดการประชุมในวันจันทร์ที่ 9 ก.ย.2556 โดยในช่วงนี้ ฝ่ายรัฐบาลพยายามเจรจาล็อบบี้ เพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภาที่จะนำไปสู่ลงมติยินยอมให้สหรัฐฯใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรีย