นายชาญวิทย์ ผลชีวิน รองอธิบดีกรมพลศึกษา มั่นในว่าด้วยประสบการณ์ทั้งในระดับปฏิบัติการ และการบริหารงานการกีฬามาตลอดชีวิต จะช่วยในการทำงานได้เป็นอย่างดี หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
หลังจากที่นายชาญวิทย์ ผลชีวิน รองอธิบดีกรมพลศึกษา และอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ประกาศลงสมัครในการสรรหาตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยแทนนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ที่จะหมดวาระในเดือนมิถุนายนปีหน้า ล่าสุดนายชาญวิทย์ให้สัมภาษณ์แสดงความมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์การทำงานที่เคยอยู่ทั้งในระดับปฏิบัติการ คือ การเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอล และในด้านการบริหารที่ไต่เต้าจนปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมพลศึกษา จะถือเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเด่นในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารวงการกีฬาของไทย หากได้รับการสรรหาในตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
นายชาญวิทย์ยังบอกอีกว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยก็พร้อมที่จะทำงานกับรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยทุกคน โดยเป้าหมายสำคัญคือ การวางระบบในการผลักดันนักกีฬาไทยให้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงประสบความสำเร็จในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ และซีเกมส์ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับนายชาญวิทย์เคยเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมกสิกรไทย และนำทีมคว้าแชมป์สโมสรเอเชีย ที่พัฒนามาเป็นการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในปัจจุบันถึง 2 ครั้ง รวมทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์นำทีมฟุตบอลเยาวชนไทยเข้าแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปีชิงแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก รวมทั้งยังเคยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกด้วย
