ชาวอเมริกันร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงกลางฐานทัพสหรัฐฯ
ชาวกรุงวอชิงตัน ดีซี กลุ่มหนึ่ง รวมตัวที่ลานอิสรภาพในกรุงวอชิงตัน ดีซี ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงบริเวณอาคารอู่ต่อเรือ ในฐานทัพเรือสหรัฐฯ กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยเหตุการณ์กราดยิงอย่างอุกอาจที่ฐานทัพเรือ ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา อยู่ห่างจากอาคารรัฐสภาเพียง 6 กิโลเมตร และห่างจากทำเนียบขาวเพียงไม่ถึง 4 กิโลเมตร เกิดขึ้นเมื่อเวลา 8.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 19.20 น. วันจันทร์ ตามเวลาประเทศไทย เมื่อมือปืนใช้บัตรผ่านเข้าไปในบริเวณอู่ต่อเรือ ฐานทัพเรือสหรัฐฯ และเริ่มกราดยิงผู้คนในโถงทางเดือน ก่อนเดินขึ้นไปบนระเบียงและกราดยิงลงมาใส่คนด้านล่าง สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วบริเวณ
ก่อนที่ตำรวจจะได้รับแจ้งเหตุ และเข้าควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งมีการปิดล้อมฐานทัพเรือ เพื่อป้องกันมือปืนหลบหนี ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถสังหารมือปืนที่ก่อเหตุได้ โดยเบื้องต้นก็ยังไม่แน่ชัดว่ามือปืนผู้ก่อเหตุมีกี่คน
ภายหลังการปิดล้อมตรวจค้นจนแน่ใจ เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ผู้ที่ปฏิบัติงานภายในออกนอกฐานทัพเรือ ไปยังลานอนุสรณ์สถานแห่งชาติ หรือ เนชั่นแนล มอลล์ ซึ่งมีญาติๆ มารอรับอยู่ที่นั่น และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 13 คน รวมทั้งมือปืน 1 คน
หลังเหตุการณ์ สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวน พบว่ามือปืนที่ก่อเหตุ มีเพียงคนเดียว คือนายอารอน อเล็กซิส อายุ 34 ปี ชายรัฐเท็กซัส แต่เติบโตที่นครนิวยอร์ค อดีตนายทหารของกองทัพแต่ปลดประจำการเป็นกองกำลังสำรองตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากมีปัญหาความประพฤติ นอกจากนี้ ยังพบว่านายอเล็กซิส เคยมีปัญหากับตำรวจกรณีที่เกี่ยวข้องกับปืนถึง 2 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ
มีรายงานว่านายอเล็กซิสอาศัยอยู่กับเจ้าของร้านอาหารแฮปปี้ โบว์ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยในกรุงวอชิงตัน ดีซี ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2555 ถึงพฤษภาคม 2556 ซึ่งเจ้าของร้านรายดังกล่าว บอกว่าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมานายอเล็กซิส ไม่มีท่าทีที่แสดงออกว่าเป็นคนก้าวร้าว หรือโกรธเกรี้ยว และพบว่านายอเล็กซิส เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ และปฏิบัติธรรมที่วัดพุทธในวอชิงตัน ดีซี อยู่เป็นประจำ