น้ำท่วมเหนือ - อีสาน
สถานการณ์ทางภาคเหนือที่ จ.พิจิตร น้ำป่าได้หลากเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจของเทศบาล ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ สูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะที่ตลาดสดต้องปิดร้าน และของเสียหายจำนวนมาก นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้เร่งนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เนื่องจากส่วนมากไม่สามารถประกอบอาหารภายในบ้านได้ พร้อมเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ยังคงเร่งช่วยกันสร้างแนวตลิ่งบริเวณบ้านท่ายาง ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะบ้าน แม้เจ้าหน้าที่จะเร่งทำแต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวจึงทำด้วยความยากลำบาก โดยวันนี้จะระดมกำลังหน่วยงานที่ต่างๆ เข้าไปเสริมแนวตลิ่งอีกครั้ง สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือ มีจังหวัดได้รับผลกระทบทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว 14 จังหวัด เช่นที่ จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ถูกน้ำไหลเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทหารต้องนำเรือท้องแบนมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้าน และยังคงท่วมพื้นที่อำเภอรอบนอก ที่จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว 15 อำเภอ พร้อมประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 อำเภอ
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำเร่งช่วยชาวบ้านในชุมชนโนนสำนัก เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ขนย้ายข้าวของขึ้นไปไว้ที่สูง หลังน้ำไหลจากเทือกเขาพนมดงรัก เอ่อล้นตลิ่งลำห้วยสำราญ ไหลทะลักคันกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษแล้ว 9 ชุมชนอย่างรวดเร็ว และคาดว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนทั้ง 14 ชุมชน หากปริมาณน้ำยังเพิ่มต่อเนื่อง
สำหรับที่ จ.หนองคาย เมื่อคืนที่ผ่านมา ยังได้เกิดพายุลมแรง ฝนตกลงมาอย่างหนักในตัวเมืองหนองคาย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ลมพัดแรงนานกว่าครึ่งชั่วโมง เป็นเหตุให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ต้องใช้เลื่อยตัดต้นไม้เปิดทาง ขณะที่แรงลมยังพัดเอายอดพระธาตุอรหันต์ ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง พังลงมา
ส่วน จ.ชัยภูมิ ปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำมีมากขึ้น บางแห่งล้นทางระบายน้ำ น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร และเส้นทางคมนาคมเข้าหมู่บ้านต่างๆ ใน 4 อำเภอ ทั้ง อ.เมือง อ.หนองบัวแดง อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.บำเหน็จณรงค์ สำหรับในเขต อ.เมือง จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร มีการสั่งปิดโรงเรียนอย่างน้อย 3 วัน จนกว่าน้ำจะลดเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังไม่ไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ