นิคมฯสหรัตนนครเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม
สหรัตนนครเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย ปี 2554 เมื่อปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาพังประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี แม้วันนี้ประตูน้ำบางโฉมศรีถูกสร้างใหม่แข็งแรงมากขึ้น อาจเพิ่มความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ขยายพื้นที่ไปในหลายจังหวัด รวมถึงจ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้รัฐบาลกังวลกับความพร้อมรับมือน้ำท่วมของสหรัตนนคร เพราะเกือบ 2 ปีการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมล่าช้ามาก
ครั้งนั้นมวลน้ำมหาศาลจากจุดนี้ท่วมไกลถึงพระนครศรีอยุธยา โดยวันที่ 5 ตุลาคมเป็นวันที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครเป็นจุดรับน้ำ ผ่านมาเกือบ 2 ปี ความก้าวหน้าของการฟื้นฟู เทียบไม่ได้กับพื้นที่อุตสาหกรรมอื่น คันกั้นน้ำสัญลักษณ์ความปลอดภัยเสร็จ ร้อยละ30 และมีการเปลี่ยนผู้บริหารแผนฟื้นฟู ทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เป็นห่วงกับประสิทธิภาพในการรับมือหน้าน้ำในปีนี้
ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมนี้ ระบุว่าคันป้องกันน้ำท่วมจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมปีหน้า แต่ระหว่างนี้มีแผนรับมืออย่างรัดกุม หากน้ำมาก ด่านแรกคือถนนรอบนอกเป็นวงแหวนครอบคลุมพื้นที่เกษตรกว่า 3,000 ไร่ ที่วางแผนปิดท่อลอดป้องกันน้ำร่วมกับชุมชน แต่หากสุดวิสัยน้ำล้นเข้ามา คันกั้นน้ำสูง 6 เมตรครึ่ง ต่อยอดด้วยคันกั้นน้ำติดตั้งเร็ว จะถูกเสริมรอบนิคมรวมระยะทาง 6 กิโลเมตร
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้กำกับดูแล ร่วมยืนยันในแผนรับมือ และสนับสนุนว่าผู้ประกอบการในพื้นที่ยังไว้วางใจ เห็นได้ชัด เพราะบางบริษัทย้ายฐานการผลิตกลับมาใหม่และขยายการลงทุน เช่น บริษัทผลิตรองเท้า เอคโค
แต่ข้อมูลอีกด้านรายงานว่า หลายบริษัทกำลังขนย้ายเครื่องจักรและโรงงานออกไปพื้นที่อื่น เช่น นิคมอุตสาหกรรมหนองแค และเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราช จ.สระบุรี เพราะไม่มั่นใจการบริหารจัดการในหลายด้านของนิคมแห่งนี้ ซึ่งไม่นับรวมอีกกว่า 10 โรงงาน ที่ยังไม่กลับมาในพื้นที่
