อุตุฯ เตือนภัยพายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ” พัดเข้า นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง

สังคม
30 ก.ย. 56
08:36
79
Logo Thai PBS
อุตุฯ เตือนภัยพายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ” พัดเข้า นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง

ขณะนี้พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศเวียดนามมากขึ้นเรื่อยๆ และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ (30 ก.ย.) อิทธิพลของพายุก็จะทำให้เริ่มมีฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย

พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บขณะนี้มีความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน ก่อนที่ศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยที่ จ.นครพนมในคืนวันที่ 30 กันยายน

ด้าน นายวัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่าเมื่อพายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บเคลื่อนเข้าสู่ จ.นครพนมช่วงดึกคืนวันที่ 30 กันายน พายุจะยังคงเป็นพายุโซนร้อนที่มีความเร็วลมประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เกิดทั้งฝนตกหนักมาก และลมพายุพัดแรงมาก ใน จ.นครพนม และ จังหวัดใกล้เคียง

จากนั้นวันที่ 1 ตุลาคม ศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนเข้าสู่ จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี และลดระดับลงเป็นพายุดีเปรสชั่น แล้วจะเคลื่อนตัวผ่าน จ.ขอนแก่น และ จ.หนองบัวลำภู เข้าสู่ จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ และในวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งจะแปรสภาพเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนที่จะสลายตัวไป

ดังนั้นในระยะ 2-3 วันนี้ จะเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรงใน จ.นครพนม, จ.มุกดาหาร, จ.กาฬสินธุ์, จ.หนองคาย, จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร, จ.อุดรธานี, จ.หนองบัวลำภู, จ.เลย, จ.ขอนแก่น, จ.ชัยภูมิ, จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับคำเตือนของ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่เตือนว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องระวังอันตรายจากลมแรง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค. เพราะอาจทำให้ป้ายโฆษณา หรือ ต้นไม้ขนาดใหญ่หักเสียหายได้ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายน้ำของเขื่อนป่าสักต้องเฝ้าระวังเรื่องของระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกลงมา และอาจจะทำให้เขื่อนระบายน้ำเพิ่มขึ้น

ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล ยังวิเคราะห์ด้วยว่า วันที่ 30 กันยายน ที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ และเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนสะสมมากถึงกว่า 187 มิลลิเมตร จะยังคงมีความเสี่ยงที่ฝนจะตกหนัก เพราะยังมีแนวลมพัดสอบ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคตะวันออก

ส่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แนะนำประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง และฟังคำเตือนพายุทางราชการ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน สพฉ. 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง