ความเห็นต่างทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไข รธน.
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับมาตรา 154 ที่หลายฝ่ายระบุนั้น เป็นเรื่องที่จะมีผลกับร่าง พ.ร.บ.ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม แต่กรณีนี้เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ไม่ได้นำบทบัญญัติ ตามมาตรา 154 มาใช้บังคับ ซึ่งสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องทำเพียงกรณีเดียวคือ นำร่างขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าทูลกระหม่อม
ด้านนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่บังควร ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมจะนำร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว. ขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันนี้ โดยไม่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะจะกระทบต่อเบื้องพระยุคลบาท อีกทั้งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่เป็นวิกฤตของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน
ส่วนนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เห็นว่า การกระทำของกลุ่ม 40 ส.ว. ที่ยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ยับยั้งเรื่องดังกล่าว ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อจริยธรรม เพราะทั้งกลุ่ม 40 ส.ว. และฝ่ายค้าน เคยยื่นเรื่องแล้ว แต่ยังจะมายื่นซ้ำอีก ถือเป็นการกดดันการทำงานของนายกรัฐมนตรีและเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ขณะที่เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและสำนักราชเลขาธิการฯ เพื่อขอให้ระงับการดำเนินการนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ประเด็นที่มา ส.ว. ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ตามมาตรา 154 วรรค 2 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ตามคำร้องที่มีผู้ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยความถูกต้อง