ชาวไร่ข้าวโพดเชียงใหม่-พะเยา ยังชุมนุมร้องรัฐแทรกแซงราคา-จ่อยกระดับการชุมนุม
ชาวไร่ข้าวโพด จ.เชียงใหม่ และจ.พะเยา ยืนยันว่า จะยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องที่หน้าศาลากลางจังหวัดต่อไป เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแทรกแซงราคาข้าวโพด โดยแกนนำยืนยันว่า วันนี้ (1ต.ค.) หากไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาล จะชุมนุมยืดเยื้อ พร้อมยกระดับการชุมนุม
ชาวไร่ข้าวโพด จ.พะเยา กว่า 300 คน ปักหลักพักค้างคืนที่บริเวณศาลาประชาคม จ.พะเยา ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังชาวไร่ข้าวโพดเดินทางมาเรียกร้องให้รัฐบาลรับซื้อผลผลิตในราคากิโลกรัมละ 7 บาท รวมทั้งไม่จำกัดสิทธิ์สำหรับชาวไร่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน โดยการชุมนุมเมื่อวานนี้ (30ก.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเข้าไปภายในอาคารศาลากลางจังหวัด ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเข้ามาเจรจา จนสถานการณ์คลี่คลาย
สำหรับแนวทางการชุมนุมในวันนี้ แกนนำกลุ่มเกษตรกร ระบุว่า จะรอคอยคำตอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้อีกครั้ง และหากยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือ กลุ่มชาวไร่ข้าวโพดจะชุมนุมยืดเยื้อ และยกระดับการกดดันภาครัฐต่อไป
ส่วนที่ศาลากลางจ.เชียงใหม่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้กระจายกำลังดูแลความปลอดภัยรอบพื้นที่ เพื่อดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมชาวไร่ข้าวโพด ที่กางเต็นท์พักแรมอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด โดยยืนยันว่า จะร่วมชุมนุมจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจจากรัฐบาล
สำหรับผู้ชุมนุมที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวานนี้ ได้มีการเคลื่อนไหวปิดล้อมอาคารของศาลากลางจังหวัด ทำให้ข้าราชการ และประชาชน มากกว่า 300 คน ติดค้างอยู่ภายใน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าเจรจา จนทำให้เหตุวุ่นวายยุติลง
ข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทั้ง 2 จังหวัด ได้ขอให้รัฐเข้าแทรกแซงราคาข้าวโพด หรือรับซื้อในราคา 7 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันที่ไซโลรับซื้ออยู่ที่ 4 บาทกว่า และรัฐให้ความช่วยเหลือประมาณ 1.50 บาท ซึ่งเกษตรกรระบุว่า การช่วยเหลือดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือให้กับไซโลไม่ถึงมือเกษตรกร
ส่วนปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินเกษตรกรเปิดเผยว่า เกือบทั้งหมดของชาวไร่ข้าวโพดไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งเป็นปัญหาถึงการได้รับความช่วยเหลือในหลายกรณี