น้ำท่วม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เริ่มวิกฤติ

แม้น้ำท่วมหลายอำเภอ ใน จ.ปราจีนบุรี จะเริ่มคลี่คลาย แต่พื้นที่ อ.บ้านสร้าง กลับเริ่มวิกฤติอีกครั้ง เมื่อมวลน้ำก้อนใหญ่จะทุกอ.ไหลลงมาสมทบ ทำให้พื้นที่การเกษตรทุกชนิด จมน้ำเสียหายอย่างสิ้นเชิง

สภาพบ้านเรือนประชาชนทั้งเขต อ.บ้านสร้าง และ รอยต่อเขต อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี อยู่ในสภาพจมน้ำเกือบมิดหลังคา หลังน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี เอ่อล้นเข้าท่วมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ อ.บ้านสร้างที่ขณะนี้เริ่มวิกฤติหนัก  เนื่องจากมวลน้ำก้อนใหญ่ ทั้งจาก อ.นาดี อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.ประจันตคาม อ.ศรีมโหสถ และ อ.เมือง ไหลลงมาสมทบในพื้นที่

ส่งผลให้พื้นที่การเกษตร อาทิ บ่อเลี้ยงปลา กุ้ง เสียหายอย่างสิ้นเชิง สัตว์เลี้ยงเช่น โค กระบือ ขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เนื่องจากแหล่งอาหารถูกน้ำท่วม

ส่วนฝนที่ตกหนัก ยังคงส่งผลกระทบในหลายจังหวัด โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่เร่งใช้รถแบคโฮขุดดินบริเวณบ้านท่าอ่าง ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย เพื่อเปิดทางระบายน้ำให้กว้างขึ้น หลังฝนตกหนักที่ในพื้นที่ ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 50 ซม.

ขณะที่สถานการณ์แม่น้ำชี จ.ยโสธร ล่าสุดระดับยังเพิ่มสูงขึ้นวันละ 4 - 5 ซม. เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือไหลเข้ามาในพื้นที่ต่อเนื่อง ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำบางส่วน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 ม.

เช่นเดียวกับที่หลายพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์ ที่อิทธิพลพายุใต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในลำปะเทีย ลำน้ำมาศ และ ลำนางรอง มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่การเกษตรและถนนสายหลักถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หมู่บ้าน ในอ.นางรอง ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ส่วนภาคเหนือ ที่ จ.พะเยา ฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขา ไหลลงมาตามลำน้ำห้วยขุนต๊ำ เข้าท่วม 2 หมู่บ้านใน ต.บ้านต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา บ้านกว่า 100 หลัง รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงในอ.ดอกคำใต้ ที่ได้รับผลกระทบ

ขณะที่ภาคกลางพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ใน จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งเตือนชาวบ้าน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลงแม่น้ำป่าสัก