บทบาทวรรณกรรมการเมืองต่อมวลชน

Logo Thai PBS
บทบาทวรรณกรรมการเมืองต่อมวลชน

การขับเคลื่อนการเมืองจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีมวลชนให้การสนับสนุน เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์ทั่วโลก เราอาจพบว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ ล้วนแล้วแต่มีวรรณกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันอยู่เบื้องหลัง

บทเพลง Do You Hear the People Sing สะท้อนถึงจิตวิญญาณของมวลชนที่หวังต่อความเปลี่ยนแปลง คือ 1 ในเพลงเอกของภาพยนตร์ Les Miserables จากวรรณกรรมดังของวิกเตอร์ อูโก เล่าเรื่องราวสะเทือนใจของเหยื่ออธรรม ทั้งนักโทษผู้ยากไร้ โสเภณี เด็กไร้บ้าน และกลุ่มนักศึกษาผู้ใฝ่หาสังคมที่ดีกว่า การเสียดสีระบอบเผด็จการที่กดขี่ชนชั้นกรรมาชีพ ด้วยการใช้ตัวละครสัตว์ในฟาร์มแทนนักการเมืองและประชาชนในนวนิยายเรื่อง Animal Farm ของจอร์จ  ออร์เวล กลายเป็นหนังสือบังคับอ่านของนักเรียนมัธยมในหลายประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบดังกล่าว หรือวรรณกรรมเพื่อชีวิตอีกหลายเรื่องของนักเขียนรัสเซีย แสดงถึงบทบาทของวรรณกรรมการเมือง เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้มวลชนทั่วโลกเห็นความสำคัญของการเสียสละเพื่อสังคม และลุกขึ้นสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

บริบททางสังคมแต่ละชาติย่อมมีวาระแห่งความเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป วรรณกรรมการเมืองในอดีตมากมาย จึงถูกหยิบมาแปลและเผยแพร่ในช่วงที่บรรยากาศทางการเมืองคุกรุ่น โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลาที่นิสิตนักศึกษาหันมาอ่านวรรณกรรมเหล่านี้เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกทางการเมือง เช่นเดียวกับอีกหลายผลงานของนักเขียนไทยทั้ง เสนีย์ เสาวพงศ์ ,ศรีบูรพา, จิตร ภูมิศักดิ์, และอัศนี พลจันทร หรือนายผี ที่ต่างมีส่วนช่วยปลุกระดมวิญญาณการต่อสู้ของประชาชนเมื่อ 40 ปีก่อน

พลังของหนังสือที่อาจปลุกระดมคนหนุ่มสาวให้ลุกขึ้นสู้ ทำให้วรรณกรรมการเมืองจำนวนมากถูกสั่งให้หยุดการเผยแพร่ กระทั่งเก็บมาเผาทำลายและกลายเป็นหนังสือต้องห้าม สะท้อนบทบาทวรรณกรรมในฐานะสื่อ ที่ไม่เพียงจรรโลงสังคม แต่ยังเป็นวิธี 1 ที่มวลชนทั้งนักเขียนและนักอ่าน จะใช้เป็นอาวุธทางปัญญาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศที่ตนเองรัก

หนังสือขายดีของหลายประเทศ ก็อาจจะเป็นหนังสือต้องห้ามของบางประเทศก็ได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ววรรณกรรมการเมืองที่ถูกห้ามเผยแพร่ ก็มักจะเป็นเล่มที่นำเสนอแนวความคิดที่แตกต่างจากระบอบการปกครองของประเทศนั้นๆ นั่นเอง 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง