สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงผ่าทางตัน "วิกฤตงบประมาณ" ก่อนชนกำหนดเพดานหนี้วันนี้

ต่างประเทศ
17 ต.ค. 56
03:41
40
Logo Thai PBS
สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงผ่าทางตัน "วิกฤตงบประมาณ" ก่อนชนกำหนดเพดานหนี้วันนี้

เหตุการณ์ในต่างประเทศเช้าวันนี้้ (17 ต.ค.) เป็นข่าวที่สร้างความโล่งใจให้กับตลาดหลักทรัพย์ และตลาดการเงินทั่วโลก เมื่อผู้นำพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาบรรลุข้อตกลงผ่าทางตันวิฤตงบประมาณก่อนชนกำหนดขยายเพดานหนี้่ในวันนี้ และมีแนวโน้มว่าพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะผ่านความเห็นชอบข้อตกลงฉบับนี้

หลังจากร่วมหารือกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อเร่งหาทางผ่าทางตันวิกฤตงบประมาณที่ทำให้ต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลส่วน และอาจทำให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงจะถึงกำหนดขยายเพดานหนี้ ในที่สุดผู้นำพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาก็สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ 

 
โดยวุฒิสมาชิกแฮร์รี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าวถึงข้อตกลงฉบับนี้ว่า เป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่จะให้เวลาสภาคองเกรสร่วมกันหาทางที่จะบรรลุข้อตกลงงบประมาณระยะยาว และช่วยให้สหรัฐรอดพ้นจากหายนะทางเศรษฐกิจไปได้อย่างเฉียดฉิว
 
โดยผลของข้อตกลงจะมีการจัดสรรงบให้รัฐบาลกลางสหรัฐไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม ปี 2557 เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่ต้องปิดตัวจากวิกฤตงบประมาณสามารถเปิดทำการได้อีกครั้งและมีการขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ แต่ข้อตกลงนี้จะต้องผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภา ก่อนส่งไปให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามเพื่อตราเป็นกฎหมาย
 
ทั้งนี้ คาดว่า วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากจะลงมติผ่านความเห็นชอบข้อตกลงฉบับนี้ ก่อนจะเสนอเข้าสู่การลงมติของสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมาก โดยการลงมติจะมีขึ้นค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะผ่านความเห็นชอบเช่นกัน หลังนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้สมาชิกพรรคลงมติผ่านความเห็นชอบและยอมรับว่าการต่อสู้สิ้่นสุดลงแล้ว ขณะที่วุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ แกนนำคนสำคัญของพรรครีพับลิกันจากรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีคัดค้านกฎหมายประกันสุขภาพโอบาม่าแคร์ บอกว่าจะไม่ขัดขวางการลงมติผ่านความเห็นชอบข้อตกลงในวุฒิสภา
 
ข่าวการบรรลุข้อตกลงผ่าทางตันวิกฤตงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 1 แต่ปริมาณการซื้อขายยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการรอดูว่าปัญหาวิกฤตงบประมาณยุติอย่างเป็นทางการแล้ว 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง