แนะรัฐกำหนดท่าที หลังศาลโลกตัดสิน
วุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้าน เสนอรัฐบาลกำหนดท่าทีของไทยต่อการฟังคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารให้เหมาะสมและถูกต้อง ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจกำลังพลบริเวณประสาทพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์และสร้างความเข้าใจกับประชาชน
ระหว่างการประชุม ครม.วันนี้ (22 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมหารือเตรียมความพร้อมในการรับฟังการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ โดยตั้งคณะทำงาน เพื่อศึกษาวิเคราะห์คำตัดสินและการปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมกำชับให้จัดทีมลงพื้นที่เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อลดผลกระทบจากคำตัดสินคดี พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะรักษาอธิปไตยของไทยไว้ โดยขอให้ประชาชนคนไทย-กัมพูชา อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ขณะที่พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณประสาทพระวิหาร พร้อมตรวจแนวชายแดนบริเวณเขาสัตโสม และผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปัจจุบันตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ทำหน้าที่เฝ้าประจำการอยู่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ตำรวจตระเวนชายแดนปฏิบัติหน้าที่แทนทหาร ครบ 1 ปีแล้ว และปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี ส่วนสถานการณ์ ยังคงปกติ และด้วยแนวทางปฏิบัติของรัฐบาล มีข้อเสนอจากนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ที่ออกมาระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่จะอาศัยช่องทางคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อให้เป็นไปตามคำตัดสินของศาลโลก เพราะไทยไม่จำเป็นต้องยอมรับต่อผลที่กำลังจะเกิดขึ้น จากคำตัดสินของศาลโลก
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้รัฐบาลเตรียมพร้อมรับคำตัดสิน ด้วยการประเมินสถานการณ์ต่อการรักษาพื้นที่ตามแนวชายแดน และการวิเคราะห์คำตัดสินในแต่ละรูปแบบ เพื่อตั้งรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แทนการใช้คำพูดผูกมัดตัวเองที่จะปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก ก่อนที่ผลคำตัดสินจะออกมา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ กำหนดช่วงเวลาในการถ่ายทอดสดการอ่านคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร เวลา 16.00 น. ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป พร้อมจัดให้มีเจ้าหน้าที่แปลเป็นภาษาไทยตลอดการอ่านคำตัดสินด้วย