"เสน่ห์ยีนส์ขาด" แฟชั่นบ่งบอกตัวตนของผู้ใส่

Logo Thai PBS
"เสน่ห์ยีนส์ขาด" แฟชั่นบ่งบอกตัวตนของผู้ใส่

ขึ้นชื่อว่าของใหม่ ใคร ๆ ก็คงจะอยากได้ แต่ถ้าเป็นกางเกงยีนส์แล้ว ยีนส์เก่าอาจจะดูขลังหรือมีเสน่ห์มากกว่า รวมทั้งบอกถึงตัวตนของผู้สวมใส่ด้วย ซึ่งกระแสความนิยมของกางเกงยีนส์ขาด ทำให้มีร้านสำหรับทำรอยขาดบนเกงเกงยีนส์ตามใจคนใส่โดยเฉพาะ

เห็นเป็นสาวขาซิ่งในจอ แต่การแต่งตัวสุดสบาย อย่างยีนส์ตัวสั้นปลายขาหลุดลุ่ย ก็แทบไม่ต่างจากตัวจริงของนักร้องสาว โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร ที่มักใส่ยีนส์ขาดอยู่บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน นอกจากใส่สบาย สะท้อนตัวตนแล้ว รอยขาดบนกางเกงยีนส์ยังเพิ่มความก๋ากั่นให้คนใส่ จนมียีนส์เก่าสะสมติดตู้เสื้อผ้าไม่ต่ำกว่า 20 ตัว หนึ่งในนั้น คือ ยีนส์ขาสั้นตัวเก่งตัวนี้ ที่ใส่มานานกว่า 5 ปีแล้ว 

 
ยีนส์ขาดยังเสริมภาพลักษณ์ความเป็นศิลปินนักร้อง ที่รักอิสระ ไม่อยู่ในกรอบ ไม่เว้นแม้แต่แนวเพลงฟังสบาย ของ แอปเปิ้ล เพ็ญนภางค์ ชายด่าน ครูสอนอูคูเลเล่บนโลกโซเชียลมีเดีย เธอเคยสร้างสรรค์ยีนส์ตัวเก่งให้กลายเป็นยีนส์ขาดด้วยตัวเอง เช่น ตัดปลายขากางเกงให้เส้นด้ายหลุดลุ่ย เปลี่ยนยีนส์ตัวเดิมให้เป็นยีนส์ตัวใหม่ในอีกหนึ่งอารมณ์ การได้เห็นรอยขาดบนยีนส์เพิ่มขึ้นตามการใช้งาน ยังช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับเสื้อผ้าตัวเก่า และกลายเป็นความผูกพันที่เธอมีต่อกางเกงตัวโปรด 

    

 
แม้กระแสยีนส์ขาดขณะนี้นิยมทำให้ขาดเป็นรูกว้าง หรือเกือบทั่วทั้งตัว แต่สำหรับ ขวัญชัย นาครักษาแล้ว เขามองว่าการทิ้งเส้นด้ายของผ้าเอาไว้ ไม่ทำให้ขาดไปเสียทั้งหมด กลับเพิ่มเสน่ห์ให้ยีนส์และคนใส่ดูน่าดึงดูดมากขึ้น ในแต่ละวัน มีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยเกินครึ่งขอให้เขาช่วยดีไซน์รอยขาดบนกางกงยีนส์ให้ แทนที่จะใช้ตะไบหรือฝาเบียร์อย่างคนอื่น เขากลับเลือกใช้มีดคัตเตอร์ค่อย ๆ เกลาบนกางเกงยีนส์ ซึ่งถนัดมือและรวดเร็วกว่า โดยหนึ่งตัวใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น 
 
ยีนส์เก่า ทั้งยีนส์ขาดและยีนส์ฟอก เริ่มปรากฏให้เห็นในสื่อกระแสหลักตั้งแต่ปี 1970 จากวงดนตรีพั๊งค์และร็อค และเป็นสัญลักษณ์ของความขบถ ไม่อยู่ในกรอบ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 90 จนกลายเป็นแฟชั่นการแต่งตัว แม้ยีนส์ขาดอาจดูเก่าจนไม่น่าสวมใส่ แต่สำหรับบางคน นี่คือเพื่อนเดินทางที่สวมไปทุกที่ ซึ่งไม่ว่าคนภายนอกจะมองยังไง แต่นี่คืออีกความสุขของผู้ที่หลงใหลในยีนส์ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง