"จตุพร"ชี้ การเมืองเดือน พ.ย. ร้อนแรง หลังสภาฯผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

วันนี้ (1 พ.ย.) นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า  หลังจากสภาฯลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 3 เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวนอกสภาของพรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ดังนั้นเรื่องนี้จึงยังไม่จบ และเมื่อ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งเทียบเคียงกับกรณีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยจะรับร่างฯในวาระแรก และจะดึงเวลาในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ และจะแก้ไขไม่ให้เหมือนกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฏรรมฯของ ส.ส. จากนั้นจะนำไปสู่การจัดตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภา ซึ่งยังคงมีเวลาอีกหลายขั้นตอน รวมถึงกรณีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองค่อนข้างร้อนแรง

 

และในวันที่ 8 พ.ย.จะมีการไต่ส่วน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีที่มาของ ส.ว. จากนั้นวันที่ 11 พ.ย.จะมีการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก รวมถึงคดีการรับจำนำข้าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นในเดือน พ.ย.นี้ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากสภาฯจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถที่จะยุบสภาฯได้ ซึ่งในเดือน พ.ย.จะมีสถานการณ์ที่ต้องจับตาหลายเหตุการณ์ 

 

นายจตุพร  ย้ำว่า จุดยืนของ นปช.ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยย้ำว่า ผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และ นปช.เสนอชัดเจนว่าไม่ขอรับการนิรโทษกรรม เนื่องจากต้องการให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินต่อไป และนปช.จะไม่มีวันขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่จะยังคงอยู่กับนปช.ต่อไป