ตรวจสอบบุกรุกที่ดินเพิ่มบริเวณชายหาดจ.สงขลา กว่า 300 ไร่

3 พ.ย. 56
14:47
273
Logo Thai PBS
ตรวจสอบบุกรุกที่ดินเพิ่มบริเวณชายหาดจ.สงขลา กว่า 300 ไร่

เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขตพื้นที่ 9 ตรวจสอบดินงอก กว่า 300 ไร่ ตลอดแนวชายหาดในตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ที่เกิดขึ้นจากโครงการสร้างเขื่อนของกรมเจ้าท่า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ พัดพาดินทับถมตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา หลังมีชาวบ้านกับนายทุนกว่า 50 ราย เข้าไปยึดครองเป็นเจ้าของและมีการแบ่งขายทั้งที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์

เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.เขตพื้นที่ 9 ตรวจสอบพบว่า กำแพงรั่วลวดหนามถูกนำไปปัก เพื่อแสดงแนวเขต ตลอดชายหาดบ้านปากบาง ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา บนที่ดินสาธารณะ เนื้อที่รวมกัน กว่า 300 ไร่ โดยตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา มีนายทุนกับชาวบ้าน กว่า 50 ราย เข้าไปบุกรุก บางรายมีการปลูกผลสิน เพื่อปรับภูมิทัศน์ เตรียมดำเนินการก่อสร้างรีสอร์ทบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ และยังมีการซื้อขายกันในราคาไร่ 300,000 บาท ทั้งที่ไม่เอกสารสิทธิ์
 
นอกจากนี้ การก่อสร้างเขื่อนกั้นร่องน้ำสะกอม ของกรมเจ้าท่า เพื่อแก้ไขปัญหาคลื่นพัดพาทรายเข้ามาถมปากน้ำปากบาง ให้เรือประมงสามารถสัญจรเข้า-ออกได้สะดวก หลังโครงการแล้วเสร็จพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการซัดเข้าฝั่งของคลื่น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ โดยชายฝั่ง ต.สะกอม อ.จะนะ ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเขื่อน ถูกคลื่นกัดเซาะหายไปทุกปี ในทางกลับกัน พื้นที่ชายหาด ฝั่ง ต.สะกอม อ.เทพา กลับมีดินงอกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 25-30 ม.
 
<"">
 
<"">
ปัญหาดังกล่าว ทำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เร่งวิเคราะห์ เพื่อหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าภาพดำเนินการเอาผิดกับผู้บุกรุก เบื้องต้นจะเชิญเจ้าพนักงานที่ดิน และกรมเจ้าท่า มาหารือร่วมกัน ก่อนแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา ฐานในพื้นที่ปล่อยปละละเลย หรือละเพิกเฉยให้มีการบุกรุก
 
ดินงอกในพื้นที่ ต.สะกอม อ.เทพา เกิดขึ้นจากความสูญเสียที่ดินใน ต.สะกอม อ.จะนะ ไปจำนวนหนึ่ง ทำให้คณะกรรมการตรวจสอบทุจริตในภาครัฐ เห็นว่าควรนำยึดกลับมาเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ให้ประชาชนได้ใช้พักผ่อน ไม่ควรตกไปอยู่ในมือของบุคคลใด บุคคลหนึ่ง  
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง