พลังประท้วงกลุ่มชนชั้นกลาง ที่ถนนสีลม
เสียงวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มนักวิชาการและชนชั้นกลาง ต่อการรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะนโยบายประชานิยมมีมาอย่างต่อเนื่อง และมีประท้วงบ้างประปราย แต่ยังไม่มีพลังมากพอ แต่เมื่อรัฐบาลเดินหน้าผลักดันพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบสุดซอย กลุ่มชนชั้นกลางรวมตัวออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงพลัง และเลือกถนนสีลมเป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ แสดงจุดยืนของชนชั้นกลางอีกครั้ง
ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยเลือกถนนสีลมรณรงค์เป่านกหวีด คัดค้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พร้อมย้ำว่าการรวมตัวในวันนี้ (4 พ.ย.) ประสบความสำเร็จเกินคาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 20,000 คน การประท้วงในพื้นที่เศรษฐกิจย่านสีลมกลายเป็นสัญลักษณ์สะท้อนความไม่พอใจต่อการบริหารประเทศของกลุ่มชนชั้นกลาง โดยเฉพาะเมื่อการบริหารกระทบต่อเศรษฐกิจ
ครั้งแรกที่กลุ่มชนชั้นกลางในย่านสีลมลุกฮือประท้วง เกิดขึ้นในปี 2540 ในสมัยพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี จากการลอยค่าเงินบาท ส่งผลให้เกิดวิกฤติการเงิน เว้นช่วงมาอีกเกือบ 10 ปี ภาพการประท้วงบนถนนเศรษฐกิจ เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2549 สถานการณ์การเมืองระอุ เมื่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล จุดกระแสประท้วงไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากประเด็นเลี่ยงภาษีส่วนต่างจากกำไรในการขายหุ้น และได้เห็นกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าในย่านนั้นตะโกนขับไล่แบบประชิดตัว
จากนั้นถนนสีลม กลายเป็นสัญลักษณ์ที่กลุ่มชนชั้นกลางใช้เป็นจุดร่วมชุมนุมแสดงจุดยืนทางการเมือง โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีให้หลังนี้ การประท้วงของกลุ่มชนชั้นกลางในการขับไล่รัฐบาล 2 ครั้ง 2 คราว ในอดีต ทำให้พล.อ.ชวลิตลาออกจากนายกรัฐมนตรี และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณตัดสินใจยุบสภา ต้องจับตามองว่า เสียงของชนชั้นกลางในการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ก็จะสร้างแรงสั่นสะเทือน ให้รัฐบาลยอมถอนพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่เรียกกันว่า นิรโทษกรรมสุดซอยได้หรือไม่