100 ปี Danny Boy บทเพลงเชื่อมหัวใจชาวไอริช

 

ทำนองซึ้งปนเศร้าที่กล่าวถึงการเอ่ยคำลาเด็กหนุ่มที่กำลังจากบ้านไปแดนไกล คือเนื้อหาในบทเพลง Danny Boy เพลงบัลลาดชื่อดังที่ถูกนำไปขับร้องโดยศิลปินหลากหลายแนวตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ความไพเราะกินใจยังทำให้ เอลวิส เพรสลีย์ กล่าวว่า เพลงนี้เหมือนถูกประพันธ์ขึ้นโดยนางฟ้าจากสรวงสวรรค์

 

ท่วงทำนองหลักของเพลง Danny Boy ทางจากเพลงพื้นบ้านไอริชที่แต่งโดย รอรี ดาล โอคาแฮน นักเล่นพิณชาวไอริชในศตวรรษที่ 17 มีตำนานถึงที่มาของเพลงนี้ว่าในคืนหนึ่งที่ โอคาแฮน เกิดผล่อยหลับ เพราะความเมามายริมฝั่งแม่น้ำ ได้มีเหล่านางฟ้าได้แอบหยิบพิณของเขาไปเล่น ซึ่งเขาได้จดจำท่วงทำนองเหล่าไว้ และเป็นที่รู้จักภายหลังในชื่อเพลง Londonderry Air ตามชื่อสถานที่ซึ่งเพลงถูกแต่งขึ้น 

 

ความไพเราะของบทเพลงนี้ยังทำให้มีคนพยายามใส่เนื้อร้องให้สอดคล้องกับท่วงทำนองดังกล่าวแต่ไม่เป็นที่จดจำมากนัก จนกระทั่ง เฟรด เวเธอร์ลีย์ ทนายความชาวอังกฤษแต่งเพลงเวอร์ชั่นของตัวเองในชื่อ Danny Boy ซึ่งกลายมาเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่ถูกเผยแพร่เมื่อปี 1913 เป็นต้นมา 

 

แม้เนื้อเพลงจะประพันธ์โดยชาวอังกฤษ แต่ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงการพลัดพราก และเคยถูกใช้สื่อถึงทหารหนุ่มชาวไอริชที่ไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ Danny Boy กลายเพลงที่ชาวไอริชรู้สึกผูกพันอย่างมาก และยังคงถูกนำมาร้องเพื่อรวมใจในหมู่ชาวไอริชพลัดถิ่น ในปี 1985 แบร์รี แม็คกีแกน นักมวยไอริช กับพ่อยังนำเพลงนี้มาร้องบนเวทีชิงแชมป์โลกแทนที่เพลงชาติอังกฤษ และไอร์แลนด์ เพื่อสื่อถึงการหลอมรวมใจชาวไอริชทั่วโลก จนนำไปสู่ชัยชนะในที่สุด 

 

เนื้อหาเกี่ยวกับความอาลัยบุคคลอันเป็นที่รัก ทำให้ Danny Boy ได้รับความนิยมนำไปบรรเลงในพิธีศพสำคัญๆ ทั้งในงานรำลึกผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 11 กันยา ตลอดพิธีศพของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ และเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งในวาระครบรอบ 100 ปี ได้มีการรวมตัวของชาวเมืองลอนดอนเดียร์รีย์ ในไอร์แลนด์เหนือ เพื่อร่วมกันร้องบทเพลงที่เคยทั้งให้ทั้งกำลังใจ และร่วมคลายความคิดถึงแก่ผู้คนมาเป็นเวลาถึง 100 ปี