เอกชนคาดหวังพัฒนาพื้นที่พิพาทปราสาทพระวิหาร

ภูมิภาค
12 พ.ย. 56
15:03
62
Logo Thai PBS
เอกชนคาดหวังพัฒนาพื้นที่พิพาทปราสาทพระวิหาร

ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา รวมถึงภาคธุรกิจใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คาดหวังผลการหารือของทางการไทย และกัมพูชาถึงแนวทางพัฒนาพื้นที่พิพาท และปราสาทพระวิหาร หลังคำตัดสินของศาลโลก เพราะจะส่งผลถึงการค้า, การท่องเที่ยวตามแนวชายแดน

ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ร้านจำหน่ายสินค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คือร้านค้าที่เคยจำหน่ายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวบนผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่หลังเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทย และกัมพูชา เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ร้านค้าทั้งหมดต้องย้ายลงมาอยู่ด้านล่าง ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนก็เลิกกิจการ ผลกระทบจากปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ทำให้ชาวบ้าน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังการปิดทางขึ้นปราสาทพระวิหารในฝั่งไทย ซึ่งหลังผลการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารที่ต้องการให้ไทย และกัมพูชาร่วมกันพัฒนาพื้นที่พิพาท ทำให้คนในพื้นที่คาดหวังว่าการค้าขาย รวมถึงความสัมพันธ์ของคนชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จะดีขึ้น
 
สอดคล้องกับภาคธุรกิจใน อ.กันทรลักษ์ ที่มองว่าหาก 2 ประเทศสามารถพัฒนาพื้นที่ และใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ จะทำให้เศรษฐกิจของ อ.กันทรลักษ์ ขยายอีก 1 เท่าตัว เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจของ อ.กันทรลักษ์ ส่วนใหญ่มาจากผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งหากรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศมีนโยบายพัฒนาพื้นที่พิพาท โดยเฉพาะการบริหาร และใช้ประโยชน์จากปราสาทพระวิหาร รวมถึงการพัฒนาจุดผ่านแดนต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ช่องตาเฒ่า และช่องซำแต จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน หรือเออีซี 
 
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่หลังคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ได้สั่งปิดศูนย์อพยพ 2 แห่งที่วัดศิริวราวาส และวิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ ซึ่งมีชาวบ้านตามแนวชายแดนที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์จาก 7 ตำบล อพยพมาอยู่กว่า 300 คน และได้ทยอยกลับเข้าหมู่บ้านไปตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา หลังรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศแถลงยืนยันพอใจคำตัดสินของศาล และมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่
 
ส่วนความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดน วันนี้ พล.ต.ธราธร ธรรมวินธร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีนำผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่เข้าพบปะ และพัฒนาความสัมพันธ์กับ พล.อ.สรัย ดึ้ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 และผู้บังคับหน่วยทหารกัมพูชาบริเวณจุดประสานงาน ห่างจากทางขึ้นปราสาทพระวิหาร 100 เมตร ซึ่งใกล้กับชุมชนชาวกัมพูชา โดยทหารทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันจะปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก และกำลังทหารทั้ง 2 ประเทศยังอยู่ในที่ตั้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศจะหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน
 
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแเดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ ที่ปิดเรียน หลายแห่งก็จะเริ่มเปิดการเรียนการสอนแล้ว หลังจากที่มีการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ว่าจะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง