"นปช." แจ้งความเอาผิด "สุเทพ" เหตุประกาศให้มวลชนใช้มาตรการ "อารยะขัดขืน"

การเมือง
15 พ.ย. 56
03:19
69
Logo Thai PBS
"นปช." แจ้งความเอาผิด "สุเทพ" เหตุประกาศให้มวลชนใช้มาตรการ "อารยะขัดขืน"

แกนนำกลุ่ม นปช.ยืนยันว่า การนัดหมายชุมนุมในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งตรงกับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีที่มาของ ส.ว. ไม่ได้เป็นการนัดชุมนุมเพื่อกดดันศาล ขณะที่แกนนำ นปช.ในจังหวัดเชียงใหม่ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุม โดยอ้างความผิดมาตรา 117 ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย

เครือข่ายของ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในนามกลุ่มเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 เดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ปราศรัยบนเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เรียกร้องให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศ หยุดงาน งดเสียภาษี ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 117

 
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยคดีนี้ ตำรวจเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายเดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วที่ สน.สำราญราษฎร์ ดังนั้น จะเสนอไปยังผู้บังคับบัญชา ให้ทำการพิจารณาอีกครั้ง
 
ส่วนความเคลื่อนไหวในภาพรวมของกลุ่ม นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. เปิดเผยว่า การชุมนุมของ นปช. ระหว่างวันที่ 18-20 พ.ย.นี้ ที่เมืองทองธานี นปช.จะรวมพลในที่ตั้งไม่มีการเผชิญหน้า และไม่ใช่การนัดหมายชุมนุมเพื่อข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่จะมีการพิจารณาคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของ ส.ว. แต่ นปช.ต้องการแสดงบทบาทของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนประเทศแบบนอกระบบ
 
ขณะที่กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.นี้ จะมาปักหลักชุมนุมที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอติดตามการอ่านคำวินิจฉัยในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ในวันที่ 20 พ.ย.
 
ด้านนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯ ยังไม่ได้มีการเพิ่มกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนสัปดาห์หน้าที่ศาลจะนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาส.ว. ก็จะต้องประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งหนึ่งว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง