ผู้สื่อข่าวอังกฤษระบุปัญหาการเมืองเป็นอุปสรรคช่วยเหลือฟิลิปปินส์

ต่างประเทศ
21 พ.ย. 56
14:25
84
Logo Thai PBS
ผู้สื่อข่าวอังกฤษระบุปัญหาการเมืองเป็นอุปสรรคช่วยเหลือฟิลิปปินส์

ผู้สื่อข่าวจากอังกฤษที่ได้ลงพื้นที่ประสบภัยพิบัติในฟิลิปปินส์ ระบุว่า การเมืองในฟิลิปปินส์เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งในการส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัย และเสนอให้รัฐบาลฟิลิปปินส์วางแผนรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติในระยะยาว

ภาพครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งเดินผ่านซากความเสียหายออกมารับสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่มาถึงพื้นที่เป็นครั้งแรก ภาพเหล่านี้ถูกบันทึกโดยทีมผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไอทีเอ็นชาแนลโฟร์ ของอังกฤษ ซึ่งได้เดินทางลงไปทำข่าวในพื้นที่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จอห์น สปาร์คส์ ผู้สื่อข่าวในเหตุการณ์นี้ระบุว่า สิ่ง ที่เขาเห็นเมื่อยืนอยู่บนจุดสูงสุดของซากความเสียหายก็คือภาพพื้นที่ของ ชุมชนขนาดใหญ่ที่พังทลายในทุกทิศทางคล้ายกับอยู่ในภาวะสงคราม

เขาระบุว่าเขาไม่เคยเห็นภัยพิบัติที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน โดยปัญหาสำคัญในพื้นที่ก็คือผู้ประสบภัยต่างต้องพยายามเอาชีวิตรอด เนื่องจากการไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม ซึ่งแม้ตอนนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่ทาโคลบันก็ยังเป็นเมืองที่ไม่มีคนอยากจะอาศัยอยู่ ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของเมืองอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก และ การขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานอย่างไฟฟ้า และน้ำประปา ซึ่งการฟื้นฟูให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน และถือเป็นความท้ายทายอย่างมากของรัฐบาลฟิลิปปินส์

นอกจากนั้นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เขาพบก็คือเรื่องการประสานงานระหว่างองค์กรความช่วยเหลือจากนานาชาติ และ รัฐบาลกลาง รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยในเหตุการณ์นี้ด้วย และทุกคนต่างก็ต้องเอาชีวิตรอด และตามหาญาติมิตรที่สูญหาย

สปาร์คส์ ระบุว่า มีความขัดแย้งเกิดขึ้นระว่างหน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง เนื่องจากรัฐบาลในท้องถิ่นมาจากคนละพรรคการเมือง แต่เขาเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรจะส่งความช่วยเหลือไปให้ผู้ประสบภัยได้เร็วกว่านี้ เพราะฟิลิปปินส์ผ่านประสบการณ์ภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นมาแล้วหลายครั้ง แต่เขาเชื่อว่าในครั้งต่อไปก็อาจมีการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น

สปาร์คส์เห็นว่า ทุกฝ่ายต่างได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ชาวเมืองทาโคลบันจะคาดหวังให้รัฐบาลพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติมากขึ้น และ ตัวเขาเองก็หวังว่านักการเมืองจะมีความรับผิดชอบกับสถานการณ์เช่นนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น รัฐบาลฟิลิปปินส์ก็อาจต้องถูกกดดันอย่างหนักเพื่อให้เงินจำนวนมากจากนานาชาติทำให้การแผนการช่วยเหลือเป็นไปตามเป้าหมาย

เขายังเสนอด้วยว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ควรร่วมมือกับนานาชาติเพื่อรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติ ไม่เพียงแต่ในครั้งนี้เท่านั้น แต่อาจต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจมีความรุนแรงขึ้นนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง