น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับต่อความกังวลการดำเนินการด้านกฏหมายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ศึกษารายละเอียดคำวินิจฉัย และแนวทางของกฏหมาย เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดความชัดเจน พร้อมย้ำต่อการหน้าที่ที่เป็นไปตามขั้นตอน
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเรียกส.ว.ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.มิชอบ ประชุมร่วมกันหาทางออกและประกาศจุดยืน ยอมรับว่าอาจมีแนวทางเดียวกับพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากวินิจฉัยถูกก็ยอมรับ ส่วนกรณีที่ป.ป.ช.มีมติรับพิจารณาถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่ง แต่ไม่รู้สึกกังวลเพราะรู้ล่วงหน้าแล้ว และพร้อมที่จะชี้แจง โดยเตรียมข้อมูลต่างๆ ไว้แล้ว แต่ย้ำว่ายังสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 มาลงมติวาระ 3 นั้น นายนิคมกล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่อง แต่ก็มีความเป็นไปได้ หากมีการเสนอขึ้นมาก็อยู่กับมติของที่ประชุม และส่วนตัวเห็นด้วย เพราะไม่ต้องการให้มีกฎหมายตกค้างการพิจารณาของสภาฯ
ขณะเดียวกันวันนี้ (22 พ.ย.) กลุ่ม 40 ส.ว. ได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. เพื่อยื่นเรื่องคำร้องถอดถอน ส.ส.และ ส.ว. 312 คน ที่เสนอและเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว. เพราะมีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าส.ว.-ส.ส. 312 คนได้กระทำความผิดแล้ว ประกอบด้วย ประธานสภาฯ เลขาธิการสภาฯ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขดังกล่าว