รัสเซียสกัดยูเครน ร่วมกลุ่มยุโรป

ชาวยูเครนหลายหมื่นคนยังคงปักหลักประท้วง การที่รัฐบาลเลือกย้อนยุคหันกลับไปแนบชิดกับรัสเซีย ซึ่งขณะเดียวกันข้อครหาที่ว่ารัสเซียชักใยกดดันอยู่เบื้องหลัง ก็ถูกเปิดเผยโดยกระจ่างแล้ว โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูตินเดินทางมาเยือนอิตาลี จากนั้นนายกรัฐมนตรีเอนริโก้ เลตต้าของอิตาลีและประธานาธิบดีปูตินได้ร่วมลงนามในข้อตกลงกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจหลายฉบับ ซึ่งก็รวมถึงข้อตกลงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน โอกาสนี้ประธานาธิบดีปูตินได้เปิดเผยด้วยว่า ไม่อยากให้ยูเครนเข้าไปรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งเหตุผลก็เพราะจะเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจรัสเซีย

ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า ถ้ายูเครนไปร่วมกลุ่มเศรษฐกิจการค้ากับอียู ก็จะทำให้สินค้าจากอียู ซึ่งมีการมองกันว่ามีคุณภาพดีและราคาถูก ทะลักผ่านยูเครนที่จะเป็นดินแดนปลอดภาษีเข้ามาท่วมเขตการค้าเสรีระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งบังคับใช้ระหว่างกันอยู่ในขณะนี้ ก่อนหน้านี้อียูกล่าวหาว่ารัสเซียใช้การพึ่งพาทางเศรษฐกิจกดดัน จนรัฐบาลยูเครนต้องกลับลำกระทันหันไม่ยอมลงนาม ในข้อตกลงการค้ากับอียู ซึ่งก็ทำให้ชาวยูเครนออกมาประท้วงมากกว่า 100,000 คนจนถึงขณะนี้

ผู้ประท้วงในยูเครนยังคงปักหลักอยู่ใจกลางกรุงเคียฟต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ซึ่งประเมินว่าเหลืออยู่ประมาณ 50,000 คน โดยข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงก็คงเดิมคือ ต้องการให้รัฐบาลเปลี่ยนใจเลือกนำพาประเทศไปในทิศทางเดียวกับอียู ไม่ใช่ย้อนยุคหันกลับไปแนบชิดกับรัสเซีย ซึ่งทั้งยูเครนและรัสเซียต่างก็เคยอยู่ในประเทศเดียวกัน คืออดีตสหภาพโซเวียต