สถานการณ์ประท้วงในยูเครนยังตึงเครียดหนัก
การประท้วงขับไล่รัฐบาลในยูเครนยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 และยังไม่มีที่ท่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช กลับลำไม่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป และโอนเอียงว่าจะไปกระชับสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งเป็นสาเหตุที่สร้างความไม่พอใจให้กับคนในชาติที่ต้องการให้ยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ล่าสุด กลุ่มผู้ประท้วงยังคงยึดที่ทำการรัฐหลายแห่งเป็นที่มั่น รวมทั้งศาลาว่าการเมือง และสำนักงานสหภาพแรงงาน นอกจากนี้ ยังปิดกั้นเส้นทางเข้าออกอาคารที่ทำการคณะมนตรี
การบุกยึดที่ทำการรัฐมีขึ้นหลังเกิดการปะทะกันรุนแรงระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับผู้ประท้วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลครั้งใหญ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยความรุนแรงปะทุขึ้น เมื่อผู้ประท้วงบุกจู่โจมทำเนียบประธานาธิบดี และสำนักงานนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ การปะทะกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน
ด้านประธานาธิบดียานูโควิชพยายามหาทางลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนด้วยการประกาศว่าจะฟื้นการเจรจากับสหภาพยุโรป โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อของยูเครนว่าได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายโฮเซ่ มานูเอล ประธานสหภาพยุโรป เพื่อขอรื้อฟื้นการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือทางการค้ากับสหภาพยุโรป
ด้านนายบัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติแสดงความความวิตกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน โดยวิงวอนให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นจากการใช้ความรุนแรง และแสดงออกอย่างสงบภายใต้ครรลองของระบอบประชาธิปไตย
นายบัน ซึ่งอยู่ะระหว่างการเยือนเปรู เพื่อเข้าร่วมการประชุมองค์การเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งประชาชาติ ยังแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในไทยที่ยังคงลุกลามขยายวงกว้าง นายบันยังแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งแสดงความวิตกกังวลที่กลุ่มผู้ประท้วงพยายามใช้กำลังบุกยึดที่ทำการรัฐบาล และขอให้ทุกฝ่ายอดกลั้นอย่างถึงที่สุด และร่วมกันคลี่คลายความเห็นต่างทางการเมืองด้วยการเจรจากันอย่างสันติ