พรรคฝ่ายค้านยูเครนเรียกร้องประธานาธิบดีลาออก
นายโอเลห์ ทยาห์นีบอค ผู้นำพรรคฝ่ายค้านชาตินิยม สโวโบดา ของยูเครน เรียกร้องให้ประธานาธิบดียานูโควิชตัดสินใจลาออก เพื่อหลีกเลี่ยงการประท้วงนองเลือดที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าชุมนุมขับไล่ขับรัฐบาล หลังไม่สามารถโค่นประธานาธิบดียานูโควิช ลงจากอำนาจด้วยกลไกทางรัฐสภาจากการลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดียานูโควิช รอดพ้นจากการลงมติมาได้
หลังการลงมติ ผู้ประท้วงประมาณ 5,000 คน พากันมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเคียฟ เพื่อกดดันประธานาธิบดียานูโควิช ก่อนย้ายไปปักหลักชุมนุมกันที่จัตุรัสอิสรภาพ ในย่านใจกลางเมือง และผู้ประท้วงได้เพิ่มจำนวนมากกว่า 10,000 คน แม้จะมีความวิตกกันว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีก แต่การชุมนุมก็เป็นไปอย่างสงบ โดยผู้ประท้วงได้นำเครื่องดื่ม และอาหารไปให้ตำรวจ ที่ตรึงกำลังดูแลรักษาความสงบ ช่วยให้บรรยากาศคลายความตึงเครียด
ก่อนหน้านี้ กลุ่มพรรคฝ่ายค้านของยูเครนได้ยื่นขอให้รัฐสภาจัดการลงมติไม่ไว้วางใจ ประธานาธิบดียานูโควิช และรัฐบาล ซึ่งกลับลำไม่ลงนามในข้อตงลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป และโอนเอียงว่าจะหันไปกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่การที่ประธานาธิบดียานูโควิช รอดพ้นจากมติไม่ไว้วางใจ ส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองยังคงตึงเครียดต่อไป
ขณะที่รัฐบาลยูเครนพยายามลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนด้วยการยอมรับว่าตำรวจใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง ขณะที่นายกรัฐมนตรีไมโกล่า อาซารอฟ ได้ขอโทษต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่เตือนว่าอาจจำเป็นต้องใช้กำลังอีก หากผู้ประท้วงยังไม่หยุดต่อต้านรัฐบาล
ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ได้ประณามรัฐบาลยูเครนที่ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่สนับสนุนสหภาพยุโรป ขณะที่นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนรัฐบาลยูเครนให้รับฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน