ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยังเพิ่มสูงขึ้น

แม้สถานการณ์น้ำที่ท่วมอยู่ในหลายจังหวัดในภาคใต้ เริ่มทรงตัวหลังปริมาณฝนลดลง แต่ชาวชุมชนที่มีบ้านเรือนติดริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส หลายร้อยครอบครัวยังได้รับความเดือดร้อน หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำยังสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมบ้านเรือน

จากการที่อาสาสมัครพารามอเตอร์บินขึ้นสำรวจและเก็บภาพระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎร์ที่อยู่ติดริมแม่น้ำสุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พบว่าบ้านเรือนประชาชนหลายร้อยครอบครัว ยังจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องปริมาณน้ำแม่น้ำสุไหงโกลก ยังสูงขึ้น และ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำจำนวน 6 ชุมชน คือ ชุมชุมชนหัวสะพาน ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนประปา ชุมนุมท่าบือเล็ง ชุมชนท่ากอไผ่ และชุมชนท่าชมพู่ แต่ชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมอพยพออกจากบ้านเรือน แม้จะมีศูนย์อพยพก็ตาม เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน

ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.นราธิวาส สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมมีจำนวน 191 หมู่บ้าน/ 41 ตำบล ใน 8 อำเภอ มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 10,000 ครอบครัว

เช่นเดียวที่ จ.พัทลุง ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดริมชายทะเลสาบสงขลา พื้นที่ อ.เมือง อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และ อ.ปากพะยูน ยังเดือดร้อนหลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลมาสมทบกับน้ำทะเลที่หนุนสูง ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมอยู่แล้วเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พ่อค้า-แม่ค้าที่เปิดร้านจำหน่ายอาหาร ริมชายหาดแสนสุขลำปำ กว่า 30 ร้าน ต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยการซื้อกระสอบทราย และวัสดุมาวางปิดกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายมากไปกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนชาวบ้านริมทะเลสาบสงขลา พื้นที่บ้านคูขุด ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา กว่า 400 ครัวเรือน ยังเดือดร้อนเช่นกัน หลังน้ำในทะเลสาบ เอ่อทะลักเข้าท่วม ถนน และบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม. ถึง 1 ม. และยังมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะยังมีน้ำจาก จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช ไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำทะเลหนุนสูง