ปชป.เลือก กก.บห.ชุดใหม่ชี้ขาด 
แม้จะถูกมองว่า เป็นการประวิงเวลาเพื่อประเมินสถานการณ์ แต่ในห้วงสุดท้ายของช่วงเวลา ก่อนเปิดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2556 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงตอบคำถามเช่นเดิมว่า เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังถูกถามถึงการตัดสินใจว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 หรือไม่
การเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ในที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2556 ในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ไม่เพียงเป้าหมายที่จะวางแนวทางรองรับแผนการปฏิรูปพรรคในอนาคตอันใกล้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการกำหนดทิศทางทางการเมืองของพรรค ที่ว่าด้วยเรื่องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หรือไม่ร่วมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ที่ถูกเรียกว่า "บอยคอต" ด้วย
เดิม "ประชาธิปัตย์" มีคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 25 คน แต่เตรียมปรับโครงสร้างใหม่ เป็น 35 คน โดยตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น แม้จะมีกระแสถึงการทาบทามนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ และนายศุภชัย ภานิชภักดิ์ จะเข้ามารับหน้าที่นี้ แต่สุดท้ายชื่อของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังคงอยู่ และคาดการณ์ว่า น่าจะทำหน้าที่ต่ออีกหนึ่งสมัย
ส่วนรองหัวหน้า ที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าพรรค จำนวน 5คน วงในจากพรรคยืนยันว่า จะเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน, นายเกียรติ สิทธีอมร, ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ
ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค แหล่งข่าวในระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน บอกกับคนใกล้ชิดว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคแล้ว ก็ทำให้เกิดการคาดการณ์กันว่า มีแนวโน้มสูงที่นายอภิสิทธิ์ จะเลือกนายจุติ ไกรฤกษ์ ผู้เคยท้าชิงนายเฉลิมชัยเมื่อครั้งก่อน เข้ามารับหน้าที่นี้
สำหรับตำแหน่ง รองหัวหน้าจากภาคต่างๆ มีรายชื่อของการลงแข่งขันผ่านการลงมติโหวตเกิดขึ้น โดยภาคใต้ จะเป็นนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ กับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, ภาคอีสาน จะเป็นคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กับนายศุภชัย ศรีหล้า, ภาคกลาง จะเป็นนายอลงกรณ์ พลบุตร กับนายสาธิต ปิตุเตชะ, ภาคเหนือ จะเป็นนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู กับนายนคร มาฉิม ขณะที่ กทม. มีเพียงรายชื่อเดียวที่จะถูกนำเสนอ คือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์
และเป็นที่แน่นอนว่า การประชุมเป็นการภายในของพรรคได้ข้อสรุปตรงกันว่า สมาชิกพรรคที่ผันตัวไปเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในนาม กปปส.จะไม่เข้ามามีตำแหน่งในโครงสร้างของพรรค เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นข้อกล่าวหาทางการเมือง และคดียุบพรรคได้ และอาจเป็นไปได้ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะตัดสินใจให้พรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แม้จะรับรู้ได้ถึงผลที่จะตามมา ทั้งความไม่พึงพอใจ หลังมีสมาชิกพรรคบางส่วน ยังคงให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส.อยู่ และอาจสูญเสียฐานคะแนนเสียงทางการเมืองไปไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่ก็เข้ามาร่วมชุมนุมจนกลายเป็นภาพ มวลมหาประชาชนในช่วงที่ผ่านมา