"อลงกรณ์" ไม่ร่วมประชุมอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสาร์นี้

การเมือง
18 ธ.ค. 56
06:32
67
Logo Thai PBS
"อลงกรณ์" ไม่ร่วมประชุมอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสาร์นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอลาพักร้อน เพื่อทบทวนอนาคตตัวเอง หลังแพ้การเลือกตั้งในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและแผนปฏิรูปพรรคไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกประชุมอดีตส.ส.ของพรรคในวันเสาร์นี้ (21 ธ.ค.56)

ช่วงหนึ่งของการเข้าร่วมเสวนาทางการเมืองในภาวะวิกฤต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์การเมืองและบ้านเมืองไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงระบอบทักษิณ เพราะเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งมานับ 10 ปี ซึ่งเกิดจากการใช้อำนาจรัฐและเงิน ในการกระทำการในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จนเกิดเหตุวิกฤตขึ้น ทั้งในปี 2549, ปี 2553 และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความขัดแย้งในสังคมไทย จะยังไม่ยุติตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นคู่กรณีกับกฎหมายของประเทศไทย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นคำตอบที่ทุกภาคส่วนเรียกร้อง แต่ก็ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ยังมองไม่ออกว่าบุคคลใดมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะดำเนินการอย่างเป็นธรรม และเชื่อว่า ประชาชนส่วนหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้นชอบธรรม แต่ก็มั่นใจว่า การเลือกตั้งจะชอบธรรมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกประชุม อดีตส.ส.ของพรรค ในวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.56 เพื่อหารือและขอความเห็นชอบในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง หรือจะประกาศไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง หรือที่เรียกกันว่า "บอยคอต" การเลือกตั้ง เนื่องจากระหว่างนี้ ยังคงรอให้ กกต. ลงนามรับรองโครงสร้างใหม่ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.56)

มีรายงานว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เก็บเอกสารและของใช้ส่วนตัวออกจากห้องทำงานในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ย่านสามเสนแล้ว พร้อมแจ้งให้คนสนิทยื่นหนังสือลาการประชุมอดีต ส.ส.พรรคในวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.56 และขอพักร้อน กลับไปพักผ่อนที่ จ.เพชรบุรี เพื่อทบทวนอนาคตตัวเอง แต่ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจทางการเมืองใด ๆ

ขณะเดียวกัน นายอลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุว่า การที่แพ้เลือกตั้งในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคกลางครั้งนี้ ถือเป็นมติของที่ประชุมใหญ่ ซึ่งต้องให้ความเคารพ และแม้จะไม่มีตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่จะคอยเป็นกำลังใจ โดยขออย่าทิ้งการปฏิรูปพรรค เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ดีของประชาชน ไม่ใช่ของกลุ่มใดคนใด และช่วงท้ายยังกล่าวขอบคุณ สมาชิกพรรคทุกคนที่ร่วมงานกันมา 22 ปี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง