สหรัฐฯ ยืนกรานจับกุม
รัฐบาลอินเดียเรียกร้องให้สหรัฐฯ ขอโทษ และถอนคดีการจับกุมเจ้าหน้าที่กงสุล ขณะเดียวกันในระดับประชาชน ชาวอินเดียก็ยังคงออกมาประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติของสหรัฐฯ ยืนกรานท่าทีสวนทางกับรัฐบาล
นางเทพยานี โคบรากาดี รองกงสุลอินเดียประจำมหานครนิวยอร์คอายุ 39 ปีถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยการใส่กุญแจมือ ค้นตัว และนำเข้าห้องขังก่อนได้รับการประกันตัว ทำให้ทั้งรัฐบาล และประชาชนชาวอินเดียพากันโกรธแค้น เพราะเห็นว่า ถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง
คดีนี้ มีการโต้แย้งกันในประเด็นการทำผิดกฏหมายกับภูมิคุ้มกันทางการทูต โดยในฝ่ายอินเดียนั้นเห็นว่า แม้นางเทพยานีจะเป็นกงสุลแต่ก็ต้องได้รับเอกสิทธิ์เสมอกันในระดับทูต คือ ไม่ถูกจับกุมหรือดำเนินคดีในประเทศผู้รับ ซึ่งประเด็นนี้สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วย
ล่าสุด หัวหน้าอัยการเขตของมหานครนิวยอร์คออกมายืนยันว่า การจับกุมนางเทพยานีเป็นการปฏิบัติไปตามกฏหมายของสหรัฐฯ และยังมีการปฏิบัติที่ดีเหนือกว่าผู้ต้องหาชาวอเมริกันด้วยกันเสียอีก ซึ่งท่าทีนี้ดูเหมือนจะสวนทางกับแถลงการณ์ของนายจอห์นเคอรี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่โทรศัพท์มาบอกกับรัฐบาลอินเดีย 1 วันก่อนหน้านี้ว่า เสียใจ และเข้าใจความรู้สึก
รัฐบาลอินเดียต้องการให้สหรัฐกล่าวขอโทษและถอนคดีของนางเทพยานี เช่นเดียวกันเมื่อวานนี้ชาวอินเดียในหลายเมืองก็ยังคงออกมาเดินขบวนประท้วงสหรัฐ
กรณีนี้เจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติของสหรัฐยังตั้งข้อสังเกตขึ้นมาใหม่ด้วยว่า ทำไมทั้งรัฐบาลและประชาชนในอินเดียถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องกงสุลถูกจับแต่กลับไม่สนใจเรื่องที่นางเทพยานีเอารัดเอาเปรียบเด็กสาวรับใช้ที่เป็นชาวอินเดียเหมือนกัน คือจ่ายค่าแรงน้อยแต่ให้ทำงานเกินเวลากว่าที่กฏหมายสหรัฐกำหนดไว้มาก ทั้งนี้นางเทพยานีเป็นรายที่ 3 ของเจ้าหน้าที่ด้านการทูตอินเดียที่กระทำเรื่องลักษณะเดียวกันในสหรัฐฯ