จับตา “เพื่อไทย
ในขณะที่กำหนดการรรับสมัครรับเลือกตั้ง กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ภาพฉากหน้าของพรรคเพื่อไทย ที่แสดงความพร้อมมีเพียงการเปิดตัวกลุ่มการเมืองที่เคยย้ายออกจากพรรค กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง 16 คน แต่การประชุมกรรมการบริหาร และทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อจัดทำนโยบายหาเสียง การจัดบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ทั้งระบบเขต และระบบปาร์ตีลิสต์ ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก
แม้ตามธรรมเนียมของพรรค จะมีการบรรจุรายชื่อคนการเมืองไว้ใน 3 บัญชี คือ
1.บัญชีรายชื่อที่ส่งลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระบบปาร์ตีลิสต์และบัญชี 125 คน ส.ส.แบบแบ่งเขต 375 คน
2.บัญชีรายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี
3.บัญชีสำรองสำหรับรองรับตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ หากชนะเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้บัญชีดังกล่าว ก็ยังไม่ลงตัว
โดยพรรคเพื่อไทยได้ประกาศชื่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคด้วยแคมเปญ "เดินไปข้างหน้า รักษาประชาธิปไตย ปกป้องประชาชน"
ในช่วงที่ผ่านมา มีการหารือกันในฝ่ายกฏหมายของพรรคเพื่อไทยถึงอุบัติเหตุการเมือง 2 วาระ ที่อาจทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญในการเลือกตั้ง คือ วาระแรก ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีการลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ทำให้อาจจะมีส.ส.ของพรรคที่อยู่ในจำนวน 383 คน อาจต้องเข้าสู่กระบวนการถอดถอนจึงต้องแก้เกม ด้วยการเตรียมรายชื่อคนการเมืองจำนวนหนึ่งไว้สำรอง เพื่อเติมในบัญชีรายชื่อ
วาระที่สอง กรณีคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มาตรา 68 และมาตรา 237 รวมถึงมาตรา 190 ซึ่งอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ โดยผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทยด้วยกรณีนี้ ได้มีการเตรียมทางหนีทีไล่ ด้วยการเข้าสังกัดพรรคใหม่ได้ทันที ซึ่งอาจจะเป็นชื่อ "พรรคพลังประชาธิปไตย"
ขณะที่หลังฉากมีความพยายามของนักการเมืองสายปฏิรูป อดีตรัฐมนตรีในยุคไทยรักไทย ได้เตรียมวาระการปฏิรูปพรรค นำเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้คนในตระกูลชินวัตร เว้นวรรคทางการเมืองไปก่อน และรับแนวทางการปฏิรูปประเทศ ไว้เป็นแนวทางหาเสียง และลงสัตยาบันร่วมกับทุกพรรคการเมืองว่า หากชนะเลือกตั้ง จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศทันที เมื่อปฏิรูปเสร็จแล้วจะยุบสภาภายใน 18 เดือน
ท่ามกลางความระส่ำระสายทางการเมือง บรรดาอดีต ส.ส.ของพรรคเริ่มขาดความมั่นใจในการเดินหน้าเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจึงต้องสร้างภาพว่าพร้อมเลือกตั้งทั้งๆ ที่ภายในพรรคยังเคลื่อนไหวไปคนละทิศคนละทาง