เกิดเหตุยิงสมาชิกอบต.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิต-จนท.เร่งสอบสวนสาเหตุ

กำลังตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา พร้อมทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจที่ 15 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร สาขาบันนังสตา เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านบันนังกูแว หมู่ที่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังได้รับแจ้งว่า มีผู้ก่อเหตุยิงสมาชิก อบต.บันนังสตา เสียชีวิต และเพื่อนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ

 

สำหรับผู้เสียชีวิต คือ นายคารียา เฮงดาดา อายุ 59 ปี เป็นสมาชิก อบต. บันนังสตา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ ด.ช.ฮามาน แม อายุ 12 ปี, นายมาหามุ ฮะตะมะ อายุ 44 ปี และนายเสาะ ผดุง อายุ 70 ปี โดยภายหลังผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

 

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินออกมาจากมัสยิด หลังจากเสร็จจากการละหมาด มีผู้ก่อเหตุไม่ทราบกลุ่ม และจำนวน ใช้ปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิงเข้าใส่ นายคารียา จนเสียชีวิต กระสุนปืนยังพลาดไปถูกชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน หลังเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือ เป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

 

ด้านพันเอกบรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยระบุว่า ข้อมูลด้านการข่าวที่ได้รับอย่างต่อเนื่องว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีความพยายามที่จะก่อเหตุในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะในเขตชุมชนเศรษฐกิจ ได้แก่ อ.สุไหงโก-ลก, อ.ตากใบ, อ.เมือง จ.นราธิวาส, อ.เบตง, อ.เมือง จ.ยะลา, อ.เมือง จ.ปัตตานี และอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้แสดงความห่วงใย ในความปลอดภัยของประชาชน และได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคง กำหนดมาตรการเข้มงวดกวดขัน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนควบคู่กันไป ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเทศกาลปีใหม่ จึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัย หรือพฤติกรรมใดผิดปกติ กรุณาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าไปดำเนินการป้องกันแก้ไขตามขั้นตอนต่อไป

 

ส่วนการก่อเหตุระเบิดในพื้นที่อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 3 จุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.อ.บรรพต กล่าวว่า การลอบวางระเบิดครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญและสร้างความปั่นป่วนทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน เข้าข่ายความผิดฐานก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา ม.135/1 วรรค 3 ต้องระวางโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3-20 ปี ซึ่งการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ส่วนสาเหตุมีแนวโน้มว่า จะเป็นการตอบโต้จากกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายมากกว่าประเด็นอื่น โดยล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วว่า รถยนต์ที่ถูกนำมาใช้ประกอบระเบิดแล้วก่อเหตุที่บริเวณด้านข้างของโรงแรมโอลิเวอร์นั้น คนร้ายได้ปล้นมาจาก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา