อีกก้าวของแอนิเมชั่นไทย
ระยะหลังนี้มีแอนิเมชั่นไทยหลายเรื่องที่โดดเด่น ส่งผลให้นักทำแอนิเมชั่นไทยจำนวนไม่น้อยมีโอกาสไปร่วมงานกับต่างชาติ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ไปคว้ารางวัลจากต่างแดน ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าวงการแอนิเมชั่นไทยกำลังพัฒนา และการประกอบอาชีพในแวดวงนี้ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ
ความต้องการของมนุษย์ที่ไม่สิ้นสุดได้ทำลายธรรมชาติบนโลก และสุดท้ายความโลภนั้นก็ย้อนมาทำลายตัวเอง เนื้อหาใน ‘Never Ending’ แอนิเมชั่นเสียดสีสังคม โดย พีรพงษ์ อมรกุลเดช เยาวชนไทยที่ไปคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขัน Asia Digital Art Award 2012 ที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
มีภาพยนตร์แอนิเมชั่นฝีมือคนไทยหลายเรื่องที่มีคุณภาพและไปสร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติ เช่น ‘ยักษ์’ ซึ่งได้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในความภูมิใจของวงการแอนิเมชั่นไทยที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความสามารถทัดเทียมต่างชาติ มุมมองและประสบการณ์ของนักทำแอนิเมชั่นมืออาชีพ และแอนิเมเตอร์ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย นำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนในงาน Thailand Animation Contest Meet Up 2013 หวังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยในการสร้างสรรค์ผลงาน และพัฒนาวงการแอนิเมชั่นไทยต่อไป
แม้ที่ผ่านมานักทำแอนิเมชั่นไทยได้โชว์ฝีมือผ่านภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง แสดงถึงความสามารถของคนไทยที่เป็นที่ยอมรับในต่างแดน แต่ก็ยังเกิดคำถามว่าทำไมอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นของไทยกลับไม่เติบโตเท่าที่ควร
แม้ปัจจุบันหลายสถาบันการศึกษาจะเปิดหลักสูตรสอนแอนิเมชั่นโดยเฉพาะ แต่นักทำแอนิเมชั่นหลายคนมองว่า สิ่งสำคัญในการทำงานด้านแอนิเมชั่นอย่างจริงจัง คือความรักในวิชาชีพ รู้จักเปิดรับสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา และหมั่นฝึกฝนแสวงหาแนวทางของตัวเอง // นอกจากนั้นการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐจะช่วยทำให้วงการแอนิเมชั่นไทยให้เข้มแข็ง และสร้างรายได้เข้าประเทศอีกจำนวนมากในอนาคต
กว่าจะได้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นมาแต่ละเรื่องก็ไม่ง่าย เพราะต้องใช้เวลาผลิตอย่างน้อย 2 ปี อย่างเรื่อง ‘ยักษ์’ ก็ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปี ถ้าเราช่วยกันสนับสนุน ดูผลงานคนไทยเยอะๆ ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยกระตุ้นวงการแอนิเมชั่นไทยได้