ภาคเหนือยังคงเผชิญปัญหาไฟป่าเสียหายกว่า200ไร่
หลายพื้นที่ในภาคเหนือเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 200 ไร่ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการจุดไฟหาของป่าของชาวบ้านชาวบ้านช่วยกันดับไฟป่าริมถนนพิษณุโลก-เด่นชัย ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เนื่องจากเกิดไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งจากการเผาไร่อ้อย ทำให้รถที่สัญจรต้องใช้ความระมัดระวังควันไฟที่ปกคลุมหนา
นายฉกาจ ลาภานุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ในพื้นที่รับผิดชอบ คือ จ.อุตรดิตถ์, จ.เพชรบูรณ์ และจ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52 ถึงปัจจุบัน เกิดไฟป่าแล้ว 29 ครั้ง เสียหาย 235 ไร่ และจากสถิติพบสาเหตุอันดับ 1 เกิดจากการจุดไฟเผาเพื่อหาของป่ามากถึง 22 ครั้ง และเผาไร่อ้อย 4 ครั้ง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนหยุดเผาป่า เพื่อลดมลพิษทางอากาศ
ขณะที่จ.ตาก เกิดไฟป่าในอ.ท่าสองยาง และฝั่งประเทศพม่า บ้านเลอเบอเฮอ ล่าสุดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแล เพื่อไม่ให้ไฟป่าขยายวงกว้าง
ส่วนที่จ.สตูล รถดับเพลิง 3 คันระดมฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่ลุกไหม้สวนยางพาราของนางประไพ อุบลพงศ์ ชาวบ้านต.คลองขุด อ.เมือง หลังเพื่อนบ้านจุดไฟเพื่อเผาสวนตัวเอง แต่เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด บวกกับลมกระโชกแรง ทำให้ไฟลามไปลุกไหม้สวนของนางประไพ ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 2 กิโลเมตร